Page 37 - นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
P. 37
�
ึ
่
ี
ั
วันพุธ เดือนอ้าย ข้น ๑๒ คา เพลาบ่าย ๓ โมงเศษ ฯพฯ ลูกขุน (ข้าราชการช้นผู้ใหญ่) ณ ศาลาท่ประทับ
ื
ได้เอาหนังสือบอกของพระยายมราช (รชกาลท ๑) น้น กราบทูลพระกรณาในใจความน้นว่า วันจันทร์ เดอน ๑๒ ข้น ๕ คา
ั
่
�
ึ
ั
ั
ี
่
ุ
ั
ั
ยกกองทัพบกมาถึงบ้านปราสาทเอกไกลเมืองพระตะบองประมาณ ๑๕๐ เส้น ต้งค่ายม่นลงแล้ว แต่งให้พระหลวง
ขุนหม่น ทแกล้วทหารท้งปวง ๑,๐๐๐ เศษ ยกเข้าตีเมืองดูกาลัง รบกันเพลาบ่ายโมงจนเพลาคา เขมรยังรบพุ่งต้านทานอย ู่
�
่
ื
ั
�
คร้นเพลาประมาณ ๒ ทุ่มเศษ พระอนุชิตราชาและนายทัพนายกองท้งปวง จึงแต่งคนให้ข้ามนาวกหลังไปตีเขมร
้
ั
ั
�
ั
แตกพ่ายไป จึงยกมาต้งม่นอยู่ ณ บ้านปลงกะบ แล้วให้พระยากาแหงวิชิต ยกรบัตรทัพอยู่รักษาด่าน กองหลวง
ู
�
ั
ั
กองหน้า กองเกียกกาย กองยกรบัตรทัพ กับนายทัพนายกองท้งปวง ยกไปตีเขมรท่ค่ายส�านักระกา รบพุ่งกันแต่
ี
เพลาเช้า ๒ โมง จนเพลาบ่าย ๒ โมง ตะลุมบอนฟันแทงเขมรตายประมาณ ๑๐๐ คนเศษ เขมรแตกไป จับได้ ๒๗ คน
ได้ปืนแกว (ญวน) ๕๐ กระบอก ม้า และเครื่องศัสตราวุธเป็นอันมาก พระวิเศษถูกปืนตาย และทหารบาดเจ็บ ๑๔ คน
ตาย ๑ คน แลสืบข่าวได้ว่าเขมรตั้งค่ายรบ ณ บ้านตะพงปรัก ๒ ค่าย จึงให้ฟ้าทะละหะ และนายเงินน้องพระวิเศษ
ั
�
ทาราชการแทนพระวิเศษกองหน้าต่อไป ยกกองทัพเข้าตีเมืองโพธิสัตว์เขมรแตกหนีไป จึงต้งค่ายพักอยู่หาเสบียง
ณ เมืองโพธิสัตว์ ๓ วัน แต่งให้ทหารรักษาเมือง ๒๐๐ คน แล้วให้แยกข้นทางเมืองตะคร้อ เมืองขลุง เมืองลารอง
ึ
เมืองบริบูรณ์ ตัดตรงจะเข้าตีเมืองพุทไธเพชร คร้นถึงบ้านกาแรง จับเขมรได้ ให้การว่า กองทัพหลวงได้เมืองพุทไธเพชร
�
ั
ี
แล้วจึงยกรีบมาตามเสด็จฯ (พระยายมราช รัชกาลท ๑ เข้าพระทัยว่าพระเจ้าตากสินฯ เสด็จมากับทัพหลวง ความจริงแล้ว
่
เป็นทัพหน้าของเจ้าพระยาจักร (หมุด) ท่ตีเมืองพุทไธเพชรได้ก่อนแล้ว) พบพระองค์รามราชาบอกว่าเสด็จฯ
ี
ี
ั
ั
กลับไปเมืองฮาเตียน/พุทไธมาศแล้ว แลเมืองพุทไธเพชรน้น ข้าวปลาอาหารขัดสน จึงยกมาต้ง ณ เมืองโพธิสัตว์
เมืองปัตบอง (พระตะบอง) ข้าวปลาอาหาร ผู้คนค่อยม่งค่ง ให้ฟ้าทะละหะอยู่เกล้ยกล่อมจะได้ช่วยราชการไปกว่าจะสงบ
ี
ั
ั
ี
ั
ั
ั
คร้นได้ทรงฟังในหนังสือบอกน้นแล้ว จึงทรงฯ ตรัสส่งว่า ฟ้าทะละหะน้นให้อยู่เกล้ยกล่อม ณ เมืองโพธิสัตว์
ั
เมืองปัตบอง ที่ข้าวปลาอาหาร ผู้คนมาก และให้มีหนังสือไปเถิงพระองค์รามราชา ว่าได้ให้พระยายมราช (รัชกาลที่ ๑)
พระยาโกษาอยู่ช่วยราชการพระองค์รามราชา ถ้าราชการกรุงกัมพูชาธิบดีสงบแล้วจึงให้กองทัพกลับเข้าไปกรุงฯ
�
ึ
แลพระราชทานข้าว ๑๐๐ เกวียน ดินประสิว ๕ หาบ ดีบุก ๕ หาบ ไว้แก่พระองค์รามราชาสาหรับราชการ อน่ง ฟ้าทะละหะ
ครั้นสงบราชการแล้ว ให้คงที่เป็นฟ้าทะละหะท�าราชการทะนุบ�ารุงแผ่นดินกรุงกัมพูชาธิบดีสืบไป แล้วทรงพระกรุณา
ี
พระราชทานข้าวไว้สาหรับเมือง ให้พระองค์รามราชา ๑๐๐ เกวียน พระยาราชาเศรษฐ ๑๐๐ เกวียน ไว้เมืองพุทไธมาศ
�
ถ้าพระองค์รามราชาขัดสนก็ให้แต่งคนลงไปรับเอาต่อพระยาราชาเศรษฐี เมืองปากน�้าพุทไธมาศ (ฮาเตียน)
ึ
วันศุกร์ เดือนอ้าย ข้น ๑๔ คา เพลาเช้า เสด็จฯ ออกขุนนาง ณ ตาหนักเมืองพุทไธมาศ ตรัสส่งเจ้าพระยาสรประสิทธ์ว่า
�
ิ
�
่
ั
ณ วันเดือนอ้าย แรม ๓ ค�่า จะเสด็จกลับไปเมืองธนบุรี ให้ตั้งพิธีไปแต่วันนี้ ให้เป็นลมว่าว ลมตะวันออก กว่าจะเสด็จฯ
กลับไปเถิงเมืองธนบุรี อย่าให้เป็นเหตุการณ์แก่พิริยโยธาทั้งปวง
อน่ง เพลายาคาแล้ว ทรงพระอักษรส่งให้นายเล่ห์อาวุธ (มหาดเล็ก) ให้หมาดไทยหมายบอกข้าทูลละอองฯ
ึ
�
่
่
�
ฝ่ายทหาร พลเรือน ทแกล้วทหารทั้งปวงในใจความว่า จะเสด็จฯ กลับไปโดยทางชลมารคนั้น ให้ไปเป็นหมวดเป็นกอง
ี
อย่าให้พลัดหมวด พลัดกอง มีราชการจะได้หากันสะดวก แลฤดูน้เป็นเทศกาลลมว่าวพัดด้านข้างเรือ ลมตะวันออก
พัดข้างเรือ ห้ามอย่าให้ออกไปไกลฝั่ง ให้เลียบริมฝั่งไป ถ้าจะข้ามอ่าว ลมพัดข้างเรือนัก คลื่นใหญ่จะไปมิได้ ให้หยุดอยู่
กว่าคลื่นจะสงบราบก่อนจึงไป ให้ได้อ่าวอาศัยถ้าเห็นว่าลมเปล่าโปร่งดี ก็ให้ไปทั้งกลางวันกลางคืน อย่าให้หยุดอยู่ที่ใด
�
ี
ึ
ิ
ึ
ิ
ึ
ั
ท่หน่ง แลให้นายทัพนายกองกาชับว่ากล่าวกัน อย่าให้เป็นเหตุการณ์แต่ส่งหน่งส่งใดได้ อน่ง ลูกเรือน้นให้ดูโคม (สัญญาณไฟ)
นายเรือเป็นส�าคัญ ให้ไปเป็นหมวดเป็นกองกันตามรับสั่ง
นาวิกศาสตร์ 35
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔

