Page 36 - นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
P. 36
ุ
ู
ื
ั
ื
ั
ิ
ื
ู่
ี
เรอไล่ให้พร้อมไว เพลาทมเศษเสด็จอย ณ พระตาหนกเมองพุทไธมาศ ขนวิสตรแลลาวมช่อ กบหนังสือบอกพระยาพชัย
ุ่
�
้
(ทองดี) และหนังสือเจ้าพระยาศรีธรรมมาธิราชเป็นหลายฉบับ ทรงหนังสือบอกในท่ามกลางราชบริษัทท้งปวง ในใจความ
ั
นั้นว่า พระยาพิชัย (ทองดี) ให้ขุนคลังไปสืบข่าวราชการพะม่า พระยาศรีสุริวงศ์ บอกเนื้อความว่าไปสอดแนมราชการ
ณ เมืองแพร่ เมืองน่าน พบนายจุด นายตน นายค�ามูน ให้การว่า มังมะยุง่วน เจ้าเมืองเชียงใหม่ (ขณะนั้นขึ้นกับพะม่า)
ให้กะเกณฑ์พลทหารเป็นหลายบ้านไปพร้อมกัน ณ เมืองเชียงใหม่ กับทัพเมืองเมาะตะมะ เป็น ๒ ทัพ จะยกไปเมืองใด
คนมากน้อยเท่าใดมิได้รู้ พระยาพิชัย (ทองดี) เกณฑ์คนเมืองลับแล เมืองฝาง เป็นกองหลวงได้คน ๔๐๐ ตระเตรียมไว้
ึ
อน่ง พระยากาญจนบุรีบอกเข้ามาว่า ได้แต่งคนออกไปตระเวณปลายด่านพบพะม่าแลมอญ จึงยกพวกพลทหาร
ื
ึ
ก้าวสะกัดยิงพะม่าตาย ๒ คน พะม่าแตกพ่ายไป จึงได้หมวก เส้อ ปืน แลละว้า (ชาวเขาเผ่าหน่งอยู่ทางตอนเหนือของสยาม)
ึ
ซ่งพะม่ากวาดเอาไปน้นคืนมาได้ ๗๐ คน ข่าวว่าราชการในเมืองเมาะตะมะสงบอยู่ แลหนังสือบอกราชการในเมือง
ั
ธนบุร คร้นทรงอ่านแล้วและทรงซักไซ้ไต่ถามลาวมีช่อ (เชลยชาวลาว) ด้วยภาษาลาว ก็แจ้งและอนุมานตามกระแส
ี
ื
ั
เนื้อความนั้น จึงตรัสแก่บริษัททั้งปวงว่าพะม่าจะยกมานั้นหามิได้
ื
ี
ความเป็นไปข้างต้นน ช้ให้เห็นว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ทรงให้ความสาคัญ เร่อง “ข่าวกรอง” โดยมีการรวบรวม
�
้
ี
สืบเสาะข้อมูลข่าวสารของฝ่ายตรงข้ามแล้วนามาวิเคราะห์ เพ่อประเมินภัยคุกคามเช่นเดียวกับหลักการทหารในปัจจุบัน
�
ื
วันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๑ ค�่า เพลาเช้าโมงเศษ พระยาโกษานอกราชการทัพบก ยกลงมาแต่กรุงกัมพูชาธิบดี
มาเฝ้ากราบทูลพระกรุณาในเนื้อความว่า เมื่อยกทัพลงมานั้น เขมรป่าพวกละ ๕๐๐ พวกละ ๖๐๐ คน ยกกันมาสกัด
ทาอันตราย กลางวันบ้าง เข้าตีปล้นกลางคืนบ้าง ได้รบกันเป็นสามารถ เขมรร้องว่ามึงแตกทัพญวนลงมาแล้วหรือ
�
แลกองทัพพระยาโกษา กองทัพเจ้าพระยาอนุรักษ์ภูธร แลกองทัพขุนหมื่นข้าหลวงทั้งปวง ได้ไล่ตะลุมบอนฆ่าฟันเขมร
ล้มตายเป็นอันมาก ฝ่ายเขมรก็ต่อสู้ยิงกองทัพด้วยธนูหน้าไม้ ถูกไพร่ทหารในกองทัพ ๘๐ คนเศษ แต่จะได้อันตราย
ล้มตายแต่สักคนหนึ่งมิได้นั้น จึงทรงพระกรุณาตรัสแก่พระยาโกษาว่า เราคิดเอ็นดูว่าเขมรนี้มิได้แกล้วกล้าในสงคราม
เราจึงอดลดไว้ บัดนี้มาท�าร้ายแก่ไพร่กองทัพนั้น เห็นว่าแผ่นดินกัมพูชาธิบดียังมิสงบจะไว้ชีวิตมิได้ สั่งให้พระยาโกษา
ึ
เจ้าพระยาอนุรักษ์ภูธร ยกกองทัพข้นไปปราบเขมรเหล่าร้ายให้สงบจงได้ อน่ง เพลาทุ่มเศษ ทรงแต่งกฎประกาศ
ึ
แก่ข้าทูลละอองฯ ฝ่ายทหาร พลเรือนไทยจีน ว่าทางจะไปญวนนั้นขัดสน แลได้มีศุภอักษรไปแก่ญวนแล้วถ้าเป็นไมตรี
ั
ี
ู
่
ื
ั
ื
ึ
็
้
ต่อแล้วกแล้วไป ถ้าดอดงอย่จะยกกองทพเรอไป แลให้พระยายมราช (รชกาลท ๑) พระยาโกษาอย่ช่วยราชการ
ู
ั
ื
พระองค์รามราชา ณ เมืองกัมพูชาธิบด กว่าเขมรจะราบคาบสงบแล้วจึงให้กลับไป เม่อจะกลับไปน้น ให้เกณฑ์กัน
ี
ต้งค่ายเป็นทอดไปกว่าจะถึงกรุงฯ อย่าให้เป็นเหตุการณ์อันตราย จะเอานายทัพนายกองเป็นโทษถึงตาย อน่งญวน
ึ
ั
เขมรอ่อนแก่การสงคราม จะตั้งค่ายก็ตั้งแค่ ๓ ด้าน จะรบเรือก็ลอยเรือยิง เรือใหญ่ช่องปืนยิงนั้นจ�าเพาะแต่ปากปืนนั้น
้
จะยักย้ายมิได้ ล้อรางไม่รวดเร็วอย่างกับเรือรบกรุงฯ ถ้าทแกล้วทหารบุกรุกเข้าไปญวนกระโดดนาหนีไป ได้เรือ
�
�
เคร่องศัสตราวุธเป็นหลายแห่ง หลายตาบล แลกองทัพพระศรีพิพัฒรบกับญวน ญวนลอยเรือรบยิงแต่ไกล มิได้ยกบุกรุก
ื
ี
ั
จงเสยคน ๑๐ คน เรือ ๖ ลา และพระอุทัยธรรมมิได้ช่วยกัน ลาดถอยเรือหนีมาให้เสยราชการนน จะเอาตัว
�
ึ
ี
้
�
�
ั
ี
ั
เป็นโทษตามโทษานุโทษแต่น้สืบไปเม่อหน้า นายทัพนายกองท้งปวงจะรบญวนน้นให้เข้าเป็นกอง ๑๐ ลาบ้าง ๕ ลาบ้าง
ื
ึ
�
ี
ให้ตีแต่เข้าไปให้ชิดได้แคมได้ข้าง ถึงจะยิงปืนช่องปืนจาเพาะแต่ปากบอก จะยกท้ายข้นมได้ ก็จะพ้นไป เสยทางปืน
ิ
แล้วญวนก็จะโดดน�้าหนี จะได้ชัยชนะมาทูลเกล้าฯ เป็นความชอบนัก แลนายทัพนายกองจะรบด้วยเรือรบญวน ผู้ใด
ั
ิ
ั
ั
ร้งรอย่อหย่อนอยู่ให้เสียราชศรีสวัสด์น้น ให้นายทัพผู้ใหญ่ตัดศีรษะเสียบ อย่าได้ดูเย่ยงอย่างกัน ญวนต้งค่ายรบเอา
ี
เรือรบ เรือล่อ อย่าให้บุกรุกเข้าไป ถ้าพอจะเอาเรือรบซ่อนไว้ได้ ก็ให้ซุ่มไว้ ให้แต่งกองออกล่อให้เสียกลแล้ว ก็ให้ตัดท้าย
ตัดกลางบุกรุกเข้าไป จึงจะได้ชัยชนะด้วยง่าย
นาวิกศาสตร์ 34
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔

