Page 43 - นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
P. 43
ภาพที่ ๒ โรงเรียนนายเรือ
ใน พ.ศ. ๒๔๔๙ (ร.ศ. ๑๒๕) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ
โดยใช้ช่อว่า “โรงเรียนนายเรือ ร.ศ. ๑๒๕” ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานลายพระราชหัตถเลขา ไว้ในบันทึก
ื
สมุดเยี่ยม โรงเรียนนายเรือไว้ว่า
ภาพที่ ๓ พระราชหัตถเลขาในบันทึกสมุดเยี่ยมโรงเรียนนายเรือ
“วันที่ ๒๐ พฤษจิกายน รศ ๑๒๕ เราจุฬาลงกรณ์ ปร ได้มาเปิดโรงเรียนนี้ มีความปลื้มใจซึ่งได้เหนการ
ทหารเรือมีรากหยั่งลงแล้ว จะเปนที่มั่นสืบไปในภายน่า”
ั
ี
ึ
ี
้
ี
ึ
่
ิ
โดยพระราชหัตถเลขานเอง วันท ๒๐ พฤศจกายน ซงเป็นวนท่รากฐานการทหารเรอได้หย่งลงแล้ว จงถือว่า
่
ั
ื
ี
่
ิ
์
ั
ุ
ุ
ื
ื
เป็นวนกองทพเรอสบมาจนถงทกวนน และจากการทพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชมพรเขตอดมศกด ทรงได้เป็น
ั
ั
ี
้
ั
ึ
ุ
ผู้วางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือในทุก ๆ ด้าน ดังนั้น ใน พ.ศ. ๒๕๔๔ กองทัพเรือได้มีประกาศกองทัพเรือ
ขนานพระนามพระองค์ว่า “องค์บิดาของทหารเรือไทย” และจากพระกรุณาของพระองค์ท่มีต่อทหารเรือ “ด่งพ่อกับลูก”
ั
ี
ี
พระองค์ทรงได้รับการเชิดชูในหมู่ทหารเรือเรียกขานพระองค์ว่า “เสด็จเต่ย” โดยหม่อมราชวงศ์ จิยากร อาภากร
เสสะเวช ประธานมูลนิธิราชสกุลอาภากร ในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้อธิบาย
ไว้ถึงที่มาของค�าเรียก “เสด็จเตี่ย” ในงานครบรอบ ๑๔๐ ปี วันคล้ายวันประสูติของพระองค์ท่านไว้ว่า
นาวิกศาสตร์ 41
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔

