Page 44 - นาวิกศาสตร์ มีนาคม ๒๕๖๒
P. 44
ี
ิ
่
่
ู
ั
ี
ั
ื
ิ
ั
กาลามสตรกงขานยฐาน - วธปฏบตในเรองทควร ท่ทันสมัย สำมำรถแพร่กระจำยไปได้ท่วโลกอย่ำงรวดเร็ว
ิ
ี
ิ
ื
สงสัย หรือหลักความเช่อ ๑๐ ประการ ว่ำ อย่ำด่วน และง่ำยดำยในปัจจุบัน “กำลำมสูตรกังขำนิยฐำน หรือ
ั
ี
ื
ิ
ี
ื
ื
ื
ตดสนใจเช่อในข้อมูลควำมเช่อเหล่ำน้ คือ ๑. มำ อนุสส หลักควำมเช่อ” น้ สำมำรถน�ำมำเป็นเพ่อนคู่คิด และ
ื
ื
เวนะ - อย่ำปลงใจเชื่อด้วยกำรรำยงำนกันต่อ ๆ มำ๒. มำ เป็นเคร่องมือวิเครำะห์ควำมเช่อก่อนกำรตัดสินใจว่ำควร
ปรมปรำยะ - ปรัมปรำประเพณี ๓. มำ อิติกิรำยะ - ข่ำว เชื่อข้อมูลข่ำวสำรที่ได้รับมำนั้นหรือไม่ อย่ำงไร ได้ดีที่สุด
ั
่
ลือดีไมดี ๔. มำ ปิฏกสัมปทำเนนะ – ถึงแม้มีในต�ำรำ๕. หลักฐำนสนับสนุนว่ำพระพุทธศำสนำเป็นศำสนำแห่งกำร
มำ ตักกเหตุ - อย่ำเชื่อโดยตรรกะ (เดำสุ่ม) ๖. มำ นย ใช้ปัญญำคิดวิเครำะห์ที่โดดเด่นอีกประกำรหนึ่งก็คือ ใน
เหตุ - หรือหลักคำดคะเนหนำ ๗. มำ อำกำรปริวิตักเก บรรดำพุทธธรรมค�ำสอนที่มีมำกมำยถึง ๘๔,๐๐๐ พระ
นะ - ตรึกตำมอำกำรน่ำจะเป็นน่ำเห็นตำม ๘. มำ ทิฏฐิ ธรรมขันธ์ (หัวข้อหรือหมวด) หำกมีองค์ธรรมศรัทธำอยู่
นิชฌำนักขันติยำ - สอดรับกับควำมเห็น ๙. มำ ภัพพรูป ในธรรมหมวดใด จะมีองค์ธรรมปัญญำก�ำกับอยู่ในธรรม
ตำยะ - รูปลักษณ์เด่นเลยไม่ถำม และ ๑๐. มำ สมโณ โน หมวดนั้นด้วยเสมอ
ครูติ – คนนี้น่ำเชื่อตำมในควำมรู้เพรำะ “ครู” เรำที่ทรง
สอนให้คิดวิเครำะห์เจำะลึกก่อนเช่อ ก็ด้วยทรงเห็นคุณ ปธาน ๔ พุทธวิธี SWOT ชีวิต
ื
ื
อนันต์และโทษมหันต์ว่ำ...ควำมเช่อเป็นพ้นฐำนของกำร ในพระพุทธศำสนำมีหลักธรรมค�ำสอนหมวด
ื
ปฏิบัติ ถ้ำเชื่อผิดก็ปฏิบัติผิด เมื่อปฏิบัติผิดย่อมได้รับผล หน่งช่อ ปธาน หรือ สัมมัปปธาน ประกอบด้วย
ึ
ื
๔
ั
เป็นควำมเสียหำย ก่อให้เกิดทุกข์โทษภัยตำมมำ ถ้ำเชื่อ องค์ธรรม ๔ ประกำร จดเป็นหลกคำสอนเพอกำรคด
ั
่
ื
�
ิ
ื
ี
ถูกก็ปฏิบัติถูก เม่อปฏิบัติถูกย่อมได้รับผลเป็นควำมดีงำม วิเครำะห์แนวเดียวกับ SWOT Analysis ต่ำงกันท่ SWOT
ก่อให้เกิดสุขสมหวังตำมมำเช่นกัน ดังนั้น Analysis ใช้วิเครำะห์องค์กรประกอบกำร ซ่งเป็นกำร
ึ
จึงทรงสอน “พุทธวิธีปฏิบัติในเร่องท่ควรสงสัย” ท่ว่ำ... วิเครำะห์เชิงคุณภำพและปริมำณ ในขณะที่ ปธาน หรือ
ื
ี
ี
“ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตัวเองว่า ธรรมเหล่านั้น เป็น สัมมัปปธาน ๔ พุทธวิธีวิเคราะห์องค์กรชีวิต เป็นกำร
ี
อกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควร วิเครำะห์เชิงคุณธรรมและจริยธรรม ท่พระพุทธองค์
ละหรือถือปฏิบัติตามนั้น” ให้ใช้เป็นเครื่องมือวิเครำะห์ ทรงสอนมำนำนกว่ำ ๒,๕๐๐ ปีแล้ว ผู้เขียนขอน�ำองค์
ี
ี
ั
ข้อมูลควำมเช่อท้ง ๑๐ ประกำร ก่อนท่จะตัดสินใจเช่อ ควำมรู้ท้ง ๒ อย่ำงมำเปรียบเทียบให้เห็นถึงควำมเก่ยว
ื
ั
ื
ื
อะไรสักอย่ำง หรือเช่อใครสักคน โดยไม่ต้องมำเสียใจภำย เนื่องและควำมเหมือนที่แตกต่ำงกันดังนี้
หลัง ซึ่งผู้เขียนขอสรุปเป็น“หลักควรเชื่ออย่ำงไร” ดังนี้ ปธาน หรือ สัมมัปปธาน ๔ ว่าโดยประเภท
๑. พิจำรณำให้ทรำบชัดด้วยสติปัญญำตนเองว่ำ ๑. สังวรปธำน – เพียรระวังหรือป้องกันควำม
ถ้ำเชื่อแล้วฉลำดขึ้นหรือไม่ ถูกหลอกหรือเปล่ำ ชั่ว หรือบำปอกุศล (ใหม่) ที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น
๒. หำกเกินสติปัญญำให้อำศัยทัศนะผู้รู้
่
ู
้
ประกอบกำรตดสนใจวำ ผ้รสนบสนุนใหเชอ หรอคดคำน
ั
ิ
ื
ั
่
ื
ู้
้
ั
๓. ให้ดูจำกผลกำรปฏิบัติว่ำให้ผลดีหรือเสีย
เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ เพรำะควำมผิดพลำดหรือถูกต้อง
ของคนอ่นถือเป็นประสบกำรณ์โดยอ้อมของเรำได้เป็น ๔ ปธำน หรือ สัมมัปปธำน ๔ - ควำมเพียรชอบ เพียรถูก เพียรยิ่ง
ื
อย่ำงดี ๔ ประกำร เป็นองค์ประกอบส�ำคัญของสัมมำวำยำมะ ในมรรค
ี
ิ
ู
โลกในยุคโลกำภวตน์ทข้อมลข่ำวสำรแพร่ มีองค์ ๘ (อัฏฐังคิกมมรรค) และเป็นธรรมอันเป็นฝักฝ่ำยแห่งควำม
ั
่
ื
ั
สะพดผ่ำนเครองมอสือทำงสังคม (Social Media) ตรัสรู้สัมมำสัมโพธิญำณ (โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประกำร)
่
่
ื
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๓ ประจำ�เดือน มีน�คม ๒๕๖๒ 43

