Page 36 - หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
P. 36

36





               แสดงว่าจำเลยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าที่ดินโฉนดดังกล่าวได้เกิดที่งอกริมตลิ่งและโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่
               พพาท การที่จำเลยรู้แล้วว่าโจทก์ครอบครองทำประโยชน์ในที่พพาทยังขืนซื้อจึงเป็นการไม่สุจริต
                                                                      ิ
                 ิ
               โจทก์จึงยังมีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองตามมาตรา 1382 ตลอดมา
                            4.2 เกาะและทางน้ำตื้นเขิน กล่าวคือ เกาะที่เกิดในทะเลสาบหรือในทางน้ำ หรือใน


               เขตน่านน้ำของประเทศ และท้องทางน้ำที่เขินขึ้น เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน แต่ถ้าประชาชนใช้

               ประโยชน์ร่วมกันในเกาะหรือทางน้ำที่เขินขึ้นนั้นย่อมเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

                                                           ื่
                                                                            ิ
                            4.3 การสร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อนนั้น สามารถแยกพจารณาได้เป็น 2 กรณี คือ
               การปลูกสร้างโรงเรือนโดยสุจริตตามมาตรา 1310 และการปลูกสร้างโรงเรือนโดยไม่สุจริตตามมาตรา

               1311 ดังนี้

                                                                  ื่
                                4.3.1 การสร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อนโดยสุจริต กล่าวคือ บุคคลใดสร้าง
               โรงเรือนในที่ดินของผู้อนโดยสุจริต โดยไม่รู้ว่าที่ดินเป็นของผู้อน ผู้ปลูกสร้างเข้าใจว่าตนมีสิทธิที่จะ
                                   ื่
                                                                    ื่
               ปลูกสร้างได้ และผู้ปลูกสร้างต้องมีความสุจริตอยู่ตั้งแต่ลงมือก่อสร้างจนกระทั่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ด้วย

                                                    ื่
               ผลของการปลูกสร้างโรงเรือนในที่ดินของผู้อนโดยสุจริต กฎหมายกำหนดให้เจ้าของที่ดินเป็นเจ้าของ
               โรงเรือนนั้นๆ แต่ต้องใช้ค่าแห่งที่ดินเพยงที่เพมขึ้นเพราะสร้างโรงเรือนนั้นให้แก่ผู้สร้าง แต่ถ้าเจ้าของ
                                                     ิ่
                                               ี
               ที่ดินสามารถแสดงได้ว่ามิได้มีความประมาทเลินเล่อจะบอกปัดไม่ยอมรับโรงเรือนนั้นและเรียกให้

               ผู้สร้างรื้อถอนไป และทำที่ดินให้เป็นตามเดิมก็ได้ เว้นแต่ถ้าการรื้อถอนนั้นจะทำไม่ได้โดยใช้เงิน

               พอควร เจ้าของที่ดินจะเรียกให้ผู้สร้างซื้อที่ดินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนตามราคาตลาดก็ได้ ทั้งนี้ต้อง

                 ิ
               พจารณาข้อเท็จจริงว่าที่ดินส่วนที่เหลือเจ้าของที่ดินจะใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ เช่น นายธิวาปลูกสร้าง
               บ้านในที่ดินของนายธนาซึ่งมีเนื้อที่ 150 ตารางวา และใช้พนที่ปลูกสร้างบ้านไป 130 ตารางวา เช่นนี้
                                                                ื้
               นายธนาเจ้าของที่ดินมีสิทธิเรียกให้นายธิวาผู้สร้างซื้อที่ดินทั้งหมด แต่ถ้าเป็นกรณีของนายวายุปลูก

                                                                    ื้
                                                                                       ี
               สร้างบ้านในที่ดินของนายศิลาซึ่งมีเนื้อที่ 350 ตารางวา แต่ใช้พนที่ปลูกสร้างบ้านไปเพยง 80 ตาราง
               วา อยู่ตรงบริเวณมุมหนึ่งของที่ดินเท่านั้น เช่นนี้นายศิลาเจ้าของที่ดินมีสิทธิเรียกให้นายวายุผู้สร้างซื้อ

               ที่ดินเพยงบางส่วนเท่านั้น จะบังคับให้ซื้อทั้งหมดไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามการขอให้ซื้อไม่ได้หมายความ
                      ี
               ว่า ผู้ปลูกสร้างต้องซื้อ เพราะกฎหมายใช้คำว่าก็ได้ ไม่มีตัวบทบังคับให้ผู้สร้างต้องซื้อและไม่บังคับ

               เจ้าของที่ดินต้องขาย

                                4.3.2 การสร้างโรงเรือนในที่ดินผู้อนโดยไม่สุจริต กล่าวคือ บุคคลใดสร้าง
                                                               ื่
               โรงเรือนในที่ดินของผู้อนโดยไม่สุจริต โดยที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ที่ดินของตนเอง เช่น ขณะเริ่มสร้าง
                                    ื่
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41