Page 35 - หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
P. 35

35





                                   คำพพากษาศาลฎีกาที่ 114/2499 ซื้อโรงเรือนโดยทำสัญญาซื้อขายที่อำเภอ และมี
                                       ิ
                       ข้อตกลงว่าผู้ซื้อจะรื้อไปภายใน 3 วัน เป็นการขายสังหาริมทรัพย์ กรรมสิทธิ์ผ่านมือไปยังผู้ซื้อโดย


                       สมบูรณ์แล้วมิใช่เปลี่ยนมือเมื่อรื้อถอน ผู้ซื้อไม่ยอมรื้อถอนตามข้อตกลง กลับยอมให้ผู้ขายเช่าเรือน
                                                         ื้
                                               ี
                       ต่อไปอีก 10 ปี ถือว่าผู้ซื้อไม่มสิทธิเหนือพนดินในอันที่จะมีสิทธิเป็นเจ้าของโรงเรือนนั้น เพราะมิได้จด
                       ทะเบียนการได้มาตามมาตรา 1299 วรรคแรก เรือนจึงเป็นส่วนควบของที่ดิน หากมีผู้ซื้อที่ดินที่ปลูก

                       เรือนจากเจ้าของคนเดิมโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนนิติกรรมดังกล่าวแล้ว ผู้ซื้อย่อมได้

                       กรรมสิทธิ์ในโรงเรือนด้วย

                                 4. การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยหลักส่วนควบ

                                   การได้กรรมสิทธิ์โดยหลักส่วนควบ มีบัญญัติไว้ตั้งแต่มาตรา 1308 ถึงมาตรา 1317

                       แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้ ส่วนควบในอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นธรรมชาติและโดยการปลูกสร้าง และส่วน

                       ควบในสังหาริมทรัพย์ คือ การเอาทรัพย์ของหลายคนมารวมกัน ผลในทางกฎหมายทำให้ทราบว่า

                       บุคคลใดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และจะต้องเสียค่าตอบแทนหรือไม่เพียงใด ซึ่งจะได้กล่าวถึงการได้มาซึ่ง

                       กรรมสิทธิ์ในส่วนควบของทรัพย์ ดังต่อไปนี้

                                   4.1 ที่งอกริมตลิ่ง กล่าวคือ ที่ดินแปลงใดเกิดที่งอกริมตลิ่ง ที่งอกย่อมเป็นทรัพย์สิน

                       ของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น ทั้งที่ดินที่เป็นของรัฐหรือเอกชนที่มีโฉนดหรือสิทธิครอบครองก็ตาม

                       สามารถที่จะเกิดเป็นที่งอกริมตลิ่งได้ ลักษณะของที่งอกจะต้องงอกไปจากตลิ่งและเวลาน้ำขึ้น

                       ตามปกติน้ำจะท่วมไม่ถง และต้องเป็นการงอกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่การนำดินมาถมลงไปในทาง
                                          ึ
                                                                ิ
                       น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ดินนั้นย่อมมใช่ที่งอกริมตลิ่ง หากที่งอกริมน้ำถูกน้ำเซาะหายไป
                                                                                                   ิ
                       หมด แต่ไปเกิดที่งอกจากที่ดินฝั่งตรงข้าม เช่นนี้เจ้าของเดิมอางกรรมสิทธิ์ไม่ได้ หากแต่ต้องพจารณา
                                                                         ้
                       ก่อนว่าที่งอกใหม่ติดกับที่ดินแปลงใด ถ้าที่ดินเดิมมีกรรมสิทธิ์ที่งอกก็มีกรรมสิทธิ์ ถ้าที่ดินเดิมมีเพยง
                                                                                                       ี
                       สิทธิครอบครอง ที่งอกก็มีสิทธิครอบครอง ซึ่งจะมีผลในเรื่องการแย่งการครอบครองว่าต้องแย่ง 10 ปี

                       หรือเจ้าของเดิมต้องฟ้องเอาคืนภายใน 1 ปี

                                                                         ิ
                                           ิ
                                        คำพพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2535 ที่พพาทเป็นที่งอกริมตลิ่งจากที่ดินมีโฉนด
                       ของนาย ล. โจทก์ได้ครอบครองที่พพาทไว้โดยความสงบ และโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ
                                                     ิ
                                                                   ิ
                       ติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปี โจทก์จึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พพาทโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมาย
                       แพงและพาณิชย์ มาตรา 1382 ต่อมานาย ล. ได้ขายที่ดินตามโฉนดดังกล่าวให้จำเลย ก่อนจำเลยจะ
                         ่
                       ซื้อที่ดินจำเลยได้ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดินและได้สอบถามโจทก์ว่าที่พพาทเป็นของใครด้วย
                                                                                       ิ
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40