Page 58 - หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
P. 58

58





               ได้มาโดยทางอื่นนอกจากทางนิติกรรม เช่น ผู้ใดได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินมาโดยการครอบครองปรปักษ์แต่
               ในขณะเดียวกันก็มีบุคคลภายนอกได้รับโอนกรรมสิทธิ์นั้นจากเจ้าของเดิมไป จึงเป็นทรัพยสิทธิ


               ประเภทเดียวกันคือกรรมสิทธิ์ ที่ต้องอยู่ภายในบังคับแห่งมาตรา 1299 วรรคสอง ทำให้
                                                                                   ี่
               บุคคลภายนอกมีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครองปรปักษ์ หรือกรณีมีผู้ครอบครองปรปักษ์ทดินจนได้กรรมสิทธิ์

               แล้ว แต่ยังไม่จดทะเบียน ต่อมาเจ้าของที่ดินซึ่งมีชื่อในโฉนดนั้นได้เอาไปจดทะเบียนให้บุคคลภายนอก

                                                            ื้
               มีสิทธิเหนือพนดิน หากบุคคลภายนอกได้สิทธิเหนือพนดินมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและจด
                           ื้
               ทะเบียนโดยสุจริตแล้ว ก็สามารถจะยันกับผู้ที่ได้กรรมสิทธิ์ในการครอบครองปรปักษ์ได้ แต่ถ้าเป็น

               ทรัพยสิทธิคนละประเภท เป็นต้นว่ากรรมสิทธิ์กับภาระจำยอมกรณีเช่นนี้ก็จะไม่อยู่ในบังคับแห่ง

                                                                                    ื่
               มาตรา 1299 วรรคสอง เช่น การได้มาซึ่งภาระจำยอมในอสังหาริมทรัพย์โดยทางอนนอกจากทางนิติ
               กรรม และยังไม่จดทะเบียนการได้มาซึ่งภาระจำยอม ถ้าเจ้าของที่ดินเอาที่ดินไปจดทะเบียนขายแก่

               บุคคลภายนอก แม้บุคคลภายนอกจะได้ที่ดินมาโดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดย

                                                                                         ั
               สุจริตแล้วก็ตาม ก็ไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 1299 วรรคสอง เพราะเป็นสิทธิต่างประเภทกน กล่าวคือ
               บุคคลภายนอกจะห้ามมิให้ใช้ภาระจำยอมไม่ได้

                                      คำพพากษาศาลฎีกาที่ 800/2508 (ประชุมใหญ่) วินิจฉัยว่า มาตรา 1299
                                          ิ
                                                                    ั
               วรรคสองหมายถึง กรณีที่บุคคลได้มาโดยสุจริตซึ่งทรัพยสิทธิอนเดียวกับสิทธิที่ยังไม่ได้จดทะเบียน
               ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินซึ่งมีภาระจำยอมติดอยู่ หาได้สิทธิในภาระจำยอมไปด้วยแต่อย่างใดไม่

               สำหรับที่ดินอนเป็นภารยทรัพย์นั้น ภาระจำยอมที่มีอยู่เป็นแต่การรอนสิทธิตามมาตรา 480 เท่านั้น
                           ั
               ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจะยกการรับโอนกรรมสิทธิ์โดยสุจริตขึ้นต่อสู้เพื่อให้ภาระจำยอมที่มีอยู่ในที่ดิน

               สิ้นไปหาได้ไม่ เพราะภาระจำยอมที่สิ้นไปก็แต่เมื่อภารยทรัพย์หรือสามยทรัพย์สลายไปทั้งหมดหรือ

               มิได้ใช้ 10 ปี ตามมาตรา 1397 และมาตรา 1398

                                      คำพพากษาศาลฎีกาที่ 805/2518 (ประภาศน์  อวยชัย.  2529 : 108)
                                          ิ
               วินิจฉัยว่า ที่ดินของโจทก์มีทางภาระจำยอมผ่านที่ดินของจำเลยมากว่า 10 ปี จำเลยซื้อที่ดินจากการ

               ขายทอดตลาดของศาลโดยสุจริตจะอางมาตรา 1299 มายันโจทก์มิได้ เพราะมาตรา 1299 หมายถึง
                                              ้
               การได้สิทธิในทรัพยสิทธิอนเดียวกัน มิใช่ภาระจำยอมกับกรรมสิทธิ์ ที่ดินของโจทก์ยังคงเป็น
                                       ั
               สามยทรัพย์อยู่ แม้โจทก์จะจดทะเบียนเป็นเจ้าของหลังจากที่มีการจดทะเบียนซื้อก็ตาม

                                      2.2.2.6 กรณีบุคคลภายนอกมหลายๆ คน กล่าวคือเมื่อบุคคลภายนอกรับ
                                                               ี
               โอนมาแล้วมีการโอนต่อไปเป็นช่วงๆ หลายทอด กรณีเช่นนี้ผู้ที่ได้มาโดยทางอนนอกจากนิติกรรมนั้น
                                                                                ื่
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63