Page 85 - หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
P. 85
85
ี
ได้เคลื่อนตำแหน่งได้อยู่เสมอแดนกรรมสิทธิ์จึงมีเฉพาะเพยงแต่ตัวทรัพย์นั้นๆ เท่านั้น (บัญญัติ สุชีวะ.
2529 : 190) หรือมีแดนกรรมสิทธิ์เฉพาะตัวของมันเอง
1.3 อำนาจแห่งแดนกรรมสิทธิ์ กล่าวคือ การใช้อำนาจของแดนกรรมสิทธิ์ซึ่งมีอยู่
เหนือพนดินนั้น เจ้าของที่ดินไม่มีอำนาจขยายออกไปรอบๆ ที่ดินในทุกทิศทุกทางทั้งในแนวราบ
ื้
(horizon) และแนวดิ่ง (vertical) แต่สามารถใช้อำนาจแดนกรรมสิทธิ์เฉพาะในแนวดิ่งเท่านั้น กรณี
ื้
แดนกรรมสิทธิ์ใต้พนดินนั้นถ้าความเป็นจริงว่าโลกกลม แดนกรรมสิทธิ์ก็จะต้องจำกัดเป็นรูปกรวยตัด
ลงไปจนถึงแกนโลก เพราะเจ้าของที่ดินทางพนโลกอกขางหนึ่ง ก็อาจมีแดนผ่านมาถึงจุดตัดกันตรงนั้น
ี
้
ื้
ได้ด้วยหรือถ้าความเป็นจริงปรากฏว่าจักรวาลนี้กลมเช่นกัน เช่นนี้แดนกรรมสิทธิ์เหนือพื้นดินก็จะมีรูป
จำกัดเช่นเดียวกัน ตามมาตรา 1335 กล่าวถึงแต่เหนือกับใต้พนดินแล้วส่วนข้างๆ จะว่ากันอย่างไร
ื้
เช่น การจอดเรือหรือแพกีดขวางหน้าที่ดินของผู้อนไว้เช่นนี้ผู้นั้นจึงห้ามได้ สำหรับที่ดินติดต่อบนบก
ื่
ไกลจากทางน้ำจะกำหนดให้มีแดนข้างๆ ก็จะเกิดเหลื่อมล้ำกันยุ่งยากบังคับอย่างเดียวกันไม่ได้ (พระ
ยานิติศาสตร์ไพศาลย์. 2471 : 106) ทั้งนี้แดนกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นเจ้าของย่อมมีสิทธิในบริเวณเนื้อที่ไม่
เฉพาะแต่ในเขตผิวเนื้อที่ดินนั้น แต่รวมไปถึงบริเวณที่ว่างเปล่าซึ่งอยู่เหนือตั้งตรงขึ้นไปในอากาศบน
ื้
พนดินนั้นด้วยและรวมถึงบริเวณที่ลึกลงไปใต้ดินนั้นด้วย (ประมูล สุวรรณศร. 2501 : 217) การมี
แดนกรรมสิทธิ์เหนือพนดินเป็นเส้นตรงขึ้นไปโดยตลอดและใต้พนดินตั้งฉากลงไปนั้นต้องเท่าที่มนุษย์
ื้
ื้
สามารถจะหยั่งลงไปได้ (บัญญัติ สุชีวะ. 2535 : 165) จำกัดเพียงเท่าที่ความสามารถของมนุษย์จะใช้
สอยได้เท่านั้น หายาวไปจนถึงจักรวาลหรือลึกลงไปจนทะลุโลกอกด้านหนึ่งไม่ (บัญญัติ สุชีวะ.
ี
2535 : 167) หลักในการกำหนดสิทธิเหนือพื้นดินหรือใต้พนดินนั้นวัดจากแนวเขตพนดินตั้งฉากขึ้นไป
ื้
ื้
หรือตั้งฉากลงมา ถ้าตั้งฉากขึ้นไปในบริเวณระหว่างเส้นที่ลากจากแนวเขตที่ดินทั้งสี่เส้นนี้เป็นแดน
ื้
กรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินนั้น เช่นเดียวกันกับใต้พนดินจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินเช่นกัน
(จุฑามาศ นิศารัตน์. 2525 : 203)
ส่วนสิทธิของเจ้าของที่ดินในแนวราบไปนั้น เจ้าของที่ดินยังคงมีอำนาจบาง
ประการที่จะใช้สิทธิตามกฎหมาย เช่น กรณีมีบุคคลอื่นปล่อยควันเถ้าแกลบเข้ามาทำความเสียหายแก ่
เจ้าของที่ดินหรือปิดกั้นแสงแดด ความสว่างและทิศทางลม เป็นต้น เจ้าของที่ดินจึงได้รับความ
คุ้มครองสิทธิในแนวราบตามมาตรา 1337 กล่าวคือ บุคคลใดใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้เจ้าของ
อสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหาย หรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติ
ั
และเหตุอนควรในเมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่อยู่แห่งทรัพย์สินนั้นมาคำนึงประกอบ เจ้าของ

