Page 90 - หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
P. 90
90
ห้ามมิให้ผู้รับประโยชน์โอนทรัพย์สินนั้นก็ได้ แต่ต้องมีบุคคลใดบุคคลหนึ่งนอกจากผู้รับประโยชน์
กำหนดไว้ สำหรับเป็นผู้รับทรัพย์สินนั้นเป็นสิทธิเด็ดขาด ในเมื่อมีการละเมิดข้อกำหนดห้ามโอน” ทั้งนี้
การจำหน่ายจ่ายโอนให้หมายความรวมถึงการทำลายทรัพย์สินด้วย เช่น โยนทิ้งถังขยะ การเผาทิ้ง
การฉีก เป็นต้น
3. ได้ซึ่งดอกผล กล่าวคือ ดอกผลเป็นสิ่งที่งอกเงยโดยการมีหรือการใช้ทรัพย์นั้น ซึ่งดอก
ผลตามกฎหมายมี 2 ประเภท คือดอกผลธรรมดาและดอกผลนิตินัย เช่นนี้แล้วเมื่อทรัพย์สินใดก็ตาม
เกิดดอกผลขึ้นมา ดอกผลนั้นย่อมเป็นของเจ้าของกรรมสิทธิ์ด้วย เช่น ถ้าเป็นเจ้าของแพะก็จะเป็น
ั
เจ้าของนมแพะอนเป็นดอกผลธรรมดาด้วย หรือถ้าเป็นเจ้าของบ้านที่เอาออกให้เช่า ค่าเช่าบ้านที่ได้
จากผู้เช่าก็เป็นดอกผลของเจ้าของบ้านซึ่งเป็นดอกผลนิตินัย เป็นต้น
4. ติดตามเอาคืนจากผู้ไม่มีสิทธิยึดถือไว้ กล่าวคือ เมื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ย่อมมีสิทธิ
เหนือทรัพย์สินของตนเอง หากมีบุคคลอื่นมาอ้างสิทธิในทรัพย์สินหรือเอาทรัพย์สินนั้นไปโดยไม่มีสิทธิ
หรือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ เช่นนี้แล้วเจ้าของมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องฟอง
้
ี
คดีต่อศาล แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง หากอกฝ่ายมีข้อโต้แย้งจะใช้กำลังบังคับไม่ได้ต้องใช้สิทธิ
ทางศาล ทั้งนี้การติดตามเอาคืนในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์นี้ไม่มีอายุความ จึงสามารถติดตามได้ตลอด
ไม่มีกำหนดระยะเวลา เว้นแต่ มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ เช่น การถูกแย้งการครอบครอง
ื่
ปรปักษ์ในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์โดยผู้อนที่ครอบครองโดยสงบ เปิดเผยและมีเจตนาเป็นเจ้าของจนครบ
ื่
10 ปี บุคคลอนนั้นย่อมได้กรรมสิทธิ์โดยผลของกฎหมายแล้ว เจ้าของเดิมจึงติดตามเอาคืนไม่ได้
(บัญญัติ สุชีวะ. 2544 : 220)
คำพพากษาศาลฎีกาที่ 493/2536 ห้างโจทก์ได้รับอนุญาตจากทางการให้ประกอบธุรกิจ
ิ
ซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์ ไม่ทำให้ร้านโจทก์เป็นตลาด โจทกรับซื้อรถพพาทจากนาย ส. ซึ่งนำมาขาย
ิ
์
ให้ โจทก์จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 1332 เมื่อปรากฏว่ารถนั้นเป็นของนาย ง. ซึ่งถูกลักไป
โจทก์จึงต้องคืนให้นาย ง. ผู้เป็นเจ้าของที่ใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์คืนตามมาตรา 1336
คำพพากษาศาลฎีกาที่ 5560/2537 ข้อตกลงและทางปฏิบัติระหว่างจำเลย กับนาย บ. ผู้
ิ
ซื้อที่ดินพพาทของจำเลยจากการขายทอดตลาดโดยยอมให้จำเลยมีสิทธิเป็นเจ้าของฮวงซุ้ยซึ่งได้
ิ
ื้
ก่อสร้างบนที่ดินพพาทนั้นมาแต่เดิมเป็นการก่อให้เกิดสิทธิเหนือพนดินเป็นคุณแก่จำเลยโดยทางนิติ
ิ
กรรมตามมาตรา 1410 แต่เมื่อมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ จึง
ไม่บริบูรณ์ตามมาตรา 1299 วรรคแรก คงใช้ได้ในฐานะบุคคลสิทธิระหว่างคู่กรณีคือนาย บ. กับจำเลย

