Page 421 - เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น ประจำปี 2563 เล่มที่ 1
P. 421
416
ั
้
ทางพันธุกรรมดวยโปรแกรม MEGA รุ่น 7.0 จากนั้นสร้างแผนภูมิความสมพันธ์ทางพันธุกรรม 4 วิธี โดย
ทดสอบวิธีการจัดกลุ่มทุกวิธี คอ maximum likelihood, maximum parsimony, neighbor joining และ
ื
UPGMA แล้วเลือกวิธีการจัดกลุ่มที่ให้ผลการจ าแนกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ (ภาพที่ 3)
SCGS
SCWL
SCGGS
SCWL
480 bp
262 bp
ภาพที่ 3 แผนภูมิความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของล าดับนิวคลิโอไทด์ของดีเอ็นเอที่ได้จากวิธี M13-tagged
two steps- PCR เปรียบเทียบกับข้อมูลสากลของ SCWL และ SCGS
การทดสอบความสามารถในการตรวจจับระดับปริมาณเชื อของวิธีการเทียบกับ nested-PCR
ิ
การทดสอบโดยใชตัวอย่างอ้อยจากแปลงที่ตรวจพบการตดเชื้ออื่นเมื่อตรวจโดยวิธี nested-PCR ท ี่
้
ี่
ี
ั
ู่
ั
ื้
แสดงในลกษณะของแถบดเอ็นเอทตาแหน่ง 210 คเบส ในระดบ 4+ ซึ่งแสดงถึงปริมาณเชอระดบสเหลือง
ี
ั
ื้
(น้อยกว่า 10 copy/µl ในดีเอ็นเอพืช 25 นาโนกรัม; ศุจิรัตน์ และคณะ, 2558) และเป็นระดับปริมาณเชอท ี่
ี่
ั
ั
้
ี่
ื้
ู่
ุ
ไม่ปรากฏตาแหน่ง 700 คเบส ทกตวอย่างททดสอบ และเป็นระดบทใชในการประเมินปริมาณเชอก่อน
ี่
ั
้
ระดบวิกฤตทสามารถเกิดโรคใบขาว สวนการทดสอบดวย M13-tagged two steps- PCR พบดเอ็นเอ
่
ี
เป้าหมายทงสองตาแหน่งทประมาณ 200 และ 500 คเบส ทาให้แยกปริมาณเชอก่อนระดบวิกฤตดวยการ
ื้
้
ั
ี่
ู่
ั้
วิเคราะห์ด้วยแถบดีเอ็นเอไม่ได้ ดังนั้นต้องท าการตรวจสอบปริมาณเชื้อและการแสดงแถบดีเอ็นเอของวิธีการ
นี้ ด้วยการใช้พลาสมิดดีเอ็นเอมาตรฐานในการวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถประเมินระดับปริมาณเชื้อได้จากการ
ี่
ตรวจด้วยแถบดีเอ็นเอ (ภาพท 3)

