Page 155 - PowerPoint Presentation
P. 155
2. เพลาลูกเบี้ยว
3.) การจัดต าแหน่งเพลาลูกเบี้ยว
1. จัดต าแหน่งของเพลาลูกเบี้ยวเพื่อให้หลบแรงต้านจากสปริงวาล์ว
2. จัดต าแหน่งเพลาลูกเบี้ยวของเครื่องยนต์แต่ละรุ่นไม่เหมือน โดยการถอดให้อ้างอิงคู่มือของรุ่น
นั้นๆ
3. ถอดเพลาลูกเบี้ยวท าการคลายโบลต์หรือนอตที่ยึดประกับ
4. ถอดแบริ่งและเพลาลูกเบี้ยวออก
5. เรียงตามล าดับหลังจากถอดออกมาแล้ว
4.) ถอดฝาสูบ
1. คลายและถอดโบลต์ยึดฝาสูบจากด้านนอกเข้าด้านในตามล าดับ
2. ใช้ค้อนพลาสติกเคาะที่โครงเพื่อถอดฝาสูบ
3. เมื่อถอดฝาสูบออกมาจะมีน ้าไหลออกมาให้เตรียมถาดรองไว้
5.) การถอดลิ้น
1. จัดเครื่องมือพิเศษให้ตรงกันระหว่างด้านล่างของลิ้นและบ่ารองสปริงลิ้น
2. ขันเครื่องพิเศษเพื่ออัดสปริงลิ้น และถอดประกับลิ้นทั้ง 2 อันออก
3. คลายเครื่องมือพิเศษออกแล้วถอดบ่ารองสปริงลิ้น และสปริงลิ้นออก หลังจากนั้นดันลิ้นออก
ทางด้านห้องเผาไหม้ออกด้วยมือ
4. วางลิ้นและชิ้นส่วนอื่นๆ ลงบนกระดาษที่ท าหมายเลขไว้เพื่อการประกอบที่ถูกต้องและรวดเร็ว
ใช้บรรทัดเหล็กและฟิลเลอร์เกจตรวจสอบความโก่งของฝาสูบ
ข้อแนะน า :
เครื่องยนต์ที่มีการโอเวอร์ฮีตมากอาจท าให้ฝาสูบโก่งได้
1. บรรทัดเหล็กฟิลเลอร์เกจวัด
2. ด้านเสื้อสูบ A
3. ด้านท่อร่วมไอดี B
4. ด้านท่อร่วมไอเสีย C
5. ตรวจสอบรอยแตกร้าของฝาสูบโดยการใช้น ้ายาตรวจหารอยแตกร้าวเพื่อหารอยแตกร้าวและ
ตรวจสอบความเสียหายของฝาสูบ
6.) การตรวจวัดระยะรุนของเพลาลูกเบี้ยว
ก่อนถอดเพลาแยกเพลาลูกเบี้ยวควรท าการตรวจสอบระยะกันรุนของเพลาลูกเบี้ยวโดยใช้ไดอัลเกจ
วัดระยะที่เพลาลูกเบี้ยวก่อนและใช้ไขควงดันเพลาลูกเบี้ยว ระยะรุ่นเพลาลูกเบี้ยวไอดีประมาณ 0.3-0.085 มม.
ส่วนระยะรุนของไอเสียประมาณ 0.035-0.090 มม. ลูกเบี้ยวที่สึกหรอจะท าให้เกิดเสียงดังและเป็นเหตุให้วาล์วไอ
ดีและไอเสียเปิดไม่ตรงกับจังหวะการท างาน ถ้าค่าที่วัดได้ไม่อยู่ในค่าที่ก าหนดให้เปลี่ยนเพลาลูกเบี้ยวใหม่

