Page 134 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 134

๑๑๓


                                 เพราะตัณหาดับ             อุปาทานจึงดับ
                                 เพราะอุปาทานดับ           ภพจึงดับ

                                 เพราะภพดับ                ชาติจึงดับ
                                 เพราะชาติดับ              ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ

                                                           เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมดับ ด้วยประการฉะนี้

                                 ดังนั้นปัญหาข้อนี้จึงเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับมูลเหตุแห่งการเกิดขึ้นนามรูป กล่าว คือ จิต

                       เจตสิก และ รูป โดยชี้ให้เห็นมูลเหตุของกาลไกลกล่าว คือมูลเหตุแห่งการเกิดขึ้นของรูปนามทั้งที่เป็น

                       ส่วนอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต โดยพระนาคเสนชี้เห็นว่าอวิชชา คือมูลเหตุประการส าคัญที่ก่อให้เกิด
                       นามรูป การจะดับนามรูป จะต้องดับที่เหตุ คือ อวิชชา ถ้าเปรียบเทียบแนวคิดนี้กับแนวคิดของ

                       ปรัชญาพราหมณ์ฮนดู ก็น่าจะตรงกับค าว่าอวิทยา หรือ มายา การจะเข้าถึงไกรวัลยภาพที่เป็นอมตะ
                                      ิ
                       นิรันกาลของชีวาตมันได้นั้นต้องท าลายตัวอวิทยา หรือ มายาให้สิ้นสภาพเสียก่อนนั่นเอง



                       ๔.๓ มิลินทปัญหาเกี่ยวกับจิตและเจตสิก

                                 จากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นท าให้ทราบว่ามิลินทปัญหาในส่วนที่เกี่ยวกับปรมัตถธรรม

                       คือ จิต และเจตสิก มีอยู่หลายปัญหา ส าหรับการวิจัยในครั้งนี้ได้เลือกปัญหาที่จะวิเคราะห์เพยง ๔
                                                                                                     ี
                       ปัญหาเพื่อให้เห็นภาพกว้าง ๆ ของ ปัญหาที่เกี่ยวกับจิตและเจตสิกดังต่อไปนี้

                                 ๔.๓.๑ มนสิการปัญหา

                                 ปัญหาข้อนี้ปรากฏอยู่ในมิลินทปัญหาวรรคที่ ๑ ปัญหาที่ ๗ โดยพระยามิลินท์ได้ถามพระ

                       นาคเสนว่า“พระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่ไม่กลับปฏิสนธิอีก เพราะโยนิโสมนสิการ มิใช่หรือ”

                                 พระนาคเสนตอบว่า

                                 เพราะโยนิโสมนสิการด้วย เพราะปัญญาด้วย เพราะกุศลธรรมเหล่าอื่นด้วย

                                 พระยามลินท์ถามต่อไปว่า
                                        ิ
                                 “ปัญญาก็ คือโยนิโสมนสิการ มิใช่หรือ พระผู้เป็นเจ้า”

                                 พระนาคเสนทรงแก้ว่า

                                 “มิใช่อย่างนั้นดอก มหาราช มนสิการ (ความนึก) อย่างหนึ่ง ปัญญาอย่างหนึ่ง มนสิการ

                       ย่อมมีแม้แก่สัตว์ดิรัจฉาน เช่น แพะ แกะ กระบือ อูฐ ลา แต่ปัญญาไม่มีแก่มัน.

                                 จากการสนทนาถามตอบของปัญหาข้อนี้ ในท่อนแรก พระยามิลินทร์ถามว่า ผู้ที่ไม่กลับ

                               ี
                       ปฏิสนธิอก เพราะโยนิโสมนสิการ มิใช่หรือ ซึ่งพระนาคเสนตอบว่า มิใช่เฉพาะมนสิการอย่างเดียว
                       หรอกที่ท าให้บุคคลไม่ต้องกกลับมาปฏิสนธิอก แต่ยังมีปัญญาและกุศลธรรมเหล่าอน ในปัญหาท่อน
                                                                                            ื่
                                                            ี
   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139