Page 25 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 25

๑๑


                                                   ุ
                       พระองค์มีความเกี่ยวข้องกับพระพทธศาสนามาก กล่าว คือพระองค์ท าลายล้างราชวงศ์ยูเครติเดสลง
                       แล้วยกกองทัพเข้ามาทางอินเดีย ตีได้เมืองปัญจาปคันธาระ สถาปนาเมืองสาคละขึ้นเป็นราชธานี และ

                              ิ
                       ได้ขยายอทธิพลลงมาถึงตอนเหนือของลุ่มแม่น้ าคงคง หลักฐานมีปรากฏในต านานฝ่ายบาลีและฝ่ายจีน
                                                   ุ
                       ว่า พระองค์มิได้เลื่อมใสในพระพทธศาสนา ได้ขัดขวางพระพทธศาสนาด้วยพระราชโยบายต่าง ๆ
                                                                          ุ
                                                                                                 ุ
                       เนื่องจากพระองค์เป็นผู้แตกฉานในวิชาไตรเพท และศาสนาปรัชญาต่าง ๆ รวมทั้งพระพทธศาสนา
                                                                                           ุ
                       ด้วย จึงได้ประกาศโต้วาทีกับเหล่าสมณพราหมณ์ รวมไปถึงพระภิกษุทางพระพทธศาสนาขนาด
                       พระภิกษุสงฆ์พากันอพยพหนีจากเมืองสาคละจนหมดสิ้น เหตุการณ์นั้นท าให้เมืองสาคละว่างจาก

                                                                                     ๑๖
                       พระสงฆ์เป็นเวลา ๑๒ ปี ในช่วงนั้นพระพุทธศาสนาได้เสื่อมรัศมีลงโดยล าดับ
                                 ๑.๖.๒ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง


                                 ธีรโชติ เกิดแก้วได้ท าวิจัยเรื่อง “มิลินทปัญหาฎีกา : การตรวจช าระและการศึกษาเชิง
                                                                 ุ
                                                                                                   ุ
                       วิเคราะห์” ผลการวิจัยพบว่า  คัมภีร์หลักทางพระพทธศาสนาที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในหมู่ชาวพทธและ
                       ผู้สนใจศาสนาก็ คือพระไตรปิฎกนอกจากนี้ยังมีคัมภีร์ชั้นทุติยภูมิรองลงมา คืออรรถกถาฎีกาอนุฎีกา
                       ปกรณ์วิเสสและคัมภีร์อน ๆที่แต่งขึ้นโดยพระมหาเถระผู้มีความรู้แตกฉานในหลักค าสอนทาง
                                            ื่
                       พระพทธศาสนาคัมภีร์ที่ผู้วิจัยสนใจที่จะศึกษาวิเคราะห์ คือมิลินทปัญหาฎีกาที่พระมหาติปิฎกจูฬาภัย
                            ุ
                       เถระแต่งขึ้นเพื่ออธิบายศัพท์และขอความบางตอนในมิลินทปัญหาที่ยังไม่กระจ่างชัดให้ชัดเจนเรียกชื่อ
                                                   ้
                                                                                                  ั
                       ตามภาษาบาลีว่ามธุรตฺถปกาสินีมิลินฺทปญฺหาฏีกาฉบับตัวเขียนที่หอสมุดแห่งชาติจารด้วยอกษรขอม
                                             ้
                       ภาษาบาลีฉบับล่องชาด ไมประกับธรรมดาเลขที่๔๑๑๘/๑-๙ต. ๘๙ช. ๖/๑น. (ล. ๑) มีทั้งหมด๙ผูกไม่

                       ปรากฏนามผู้สร้างปีที่สร้างและนามผู้จารโดยการปริวรรตมาเป็นภาษาบาลีอักษรไทยและทาการตรวจ
                                                                         ั
                            ั
                       ช าระกบต้นฉบับตัวเขียนอีก๑๐ฉบับแล้วน ามาเทียบเคียงกับคมภีร์มิลินทปัญหาฎีกาฉบับที่มหาจุฬาลง
                                                                                      ี
                       กรณราชวิทยาลัยปริวรรตมาจากฉบับอกษรโรมันของสมาคมบาลีปกรณ์อกครั้งหนึ่งคัมภีร์มิลินท
                                                         ั
                       ปัญหาฎีกามีประเด็นที่น่าศึกษาวิเคราะห์หลายเรื่องและคัมภีร์นี้ยังไม่มีใครแปลหมดทั้งคัมภีร์จึงน่าจะ
                                             ื่
                       มีการแปลเป็นภาษาไทยเพอให้ผู้สนใจได้ศึกษาเรียนรู้และเข้าใจว่าคัมภีร์มิลินทปัญหาฎีกามีประวัติ
                       ความเป็นมาอย่างไรใครเป็นผู้แต่งแต่งขึ้นในสมัยใดแต่งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ใดวิธีการน าเสนอรูปแบบ
                       ของการประพนธ์เป็นอย่างไรการใช้ภาษาส านวนโวหารและอลังการทางภาษาเป็นอย่างไรเนื้อหาใน
                                  ั












                                 ๑๖ เสถียร โพธินันทะ, ประวัตศาสตรพระพทธศาสนา, (กรุงเทพมหานคร: มหามกุฎราชวิทยาลัย,
                                                      ิ
                                                                 ุ
                                                            ์
                       ๒๕๔๓), หน้า ๑๙๙.
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30