Page 65 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 65

๕๑


                                                                 ุ
                       กันอย่างไรหรือไม่ อะไรแน่ที่เป็นความแท้จริง ในพทธศาสนาก็มีปัญหาดังกล่าวนี้เช่นกัน ผู้วิจัยจึงขอ
                       สรุปพุทธอภิปรัชญา ไว้ดังนี้


                                 ๑. ความจริง (Truth)

                                  ุ
                                 พทธปรัชญาเถรวาทยอมรับความจริงหรือสัจจะ ๒ อย่าง คือ สมมติสัจจะ และ ปรมัตถ
                                                                                                  ุ
                       สัจจะ ดังที่ปรากฏในปรมัตถทีปนี ว่า ในบรรดาผู้สอนศาสนาทั้งหลาย พระสัมมาสัมพทธเจ้า ผู้
                                                                                    ๕๘
                       ประเสริฐ ตรัสสอนสัจจะ ๒ ประการ คือ สมมติสัจจะ และปรมัตถสัจจะ  สัจจะทั้งสองประการมี
                       ค าอธิบายโดยย่อดังนี้

                                 ๑) สมมติสัจจะ (Conventional Truth) ความจริงโดยสมมติ คือสิ่งที่ เป็นจริงเพราะ

                                         ื่
                       บัญญัติของชาวโลกเพอการรับรู้ร่วมกัน สิ่งนั้นไม่มีความเป็นจริงใน ตัวเอง เช่น คน พอ แม่ ลูก แมว
                                                                                             ่
                       สุนัข ต้นไม้ ภูเขา สิ่งเหล่านี้เกิดจากการ รวมตัวกันของขันธ์ ๕ จึงไม่มีความเป็นจริงโดยสภาวะของ
                       ตนเอง จัดเป็นความ จริงโดยสมมติของชาวโลก

                                 ๒) ปรมัตถสัจจะ (Ultimate Truth) ความจริงโดยปรมตถ์ คือความ จริงแท้สูงสุดตาม
                                                                                ั
                       สภาวะที่เป็นเอง โดยไม่อาศัยการสมมติบัญญัติของชาวโลก ดังค าอธิบายว่า ธรรมทั้งหลายมีรูปเป็น

                       ต้น แม้ปราศจากการสมมติก็ยังชื่อว่ามีอยู่ เพราะมีสภาวะให้รู้ได้ด้วยสามารถแห่งลักษณะเฉพาะตน
                       และสามัญลักษณะคัมภีร์ฝ่ายอภิธรรมจ าแนกประเภทของปรมัตถสัจจะออกเป็น จิต เจตสิก รูป

                       นิพพาน ซึ่งตรงกับขันธ์ ๕ และนิพพานในคัมภีร์ฝ่ายพระสูตร
                                                                        ๕๙
                                 ๒. เบญจขันธ์

                                 เบญจขันธ์หรือขันธ์ ๕ เป็นสิ่งที่มีจริงโดยสภาวะของตนจัดเป็นปรมัตถสัจจะเช่นเดียวกับ

                       นิพพาน ความแตกต่างกันก็ คือเบญจขันธ์เป็นสังขตธรรม แต่นิพพานเป็นอสังขตธรรม เบญจขันธ์เป็น

                       ฝ่ายสังสารวัฏ ส่วนนิพพานเป็นฝ่ายวิวัฏ อาจกล่าวได้ว่า ในพทธปรัชญาเถรวาท ทั้งนิพพานและ
                                                                           ุ
                       สังสารวัฏต่างก็เป็นสิ่งที่มี อยู่คู่ขนานกัน ในอันดับต่อไปนี้


                                 ๑) โลกและชีวิตในสังสารวัฏเป็นสังขตธรรมเพราะเกิดจากการรวมตัวกันขององค์
                       ประกอบพื้นฐาน ๕ ประการ ที่เรียกว่า ขันธ์ ๕ ได้แก่  รูปซึ่งเป็นองค์ประกอบ ฝ่ายวัตถุหรือสสารของ

                       สิ่งมีชีวิต (สวิญญาณกะ)และสิ่งไม่มีชีวิต (อวิญญาณกะ) ขันธ์ ที่เหลือ คือเวทนา สัญญาสังขารและ

                       วิญญาณเป็นองค์ประกอบฝ่ายจิตที่ปรุงแต่งสิ่ง มีชีวิตขันธ์ ๕ มีความหมายโดยย่อดังต่อไปนี้






                                 ๕๘ มหามกุฏราชวิทยาลัย, อภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๔ กถาวัตภาค ๑ และ อรรถกถา ๒๔๒๘, หน้า ๒๒๐.
                                 ๕๙ เรื่องเดียวกัน, หน้า ๒๑๔.
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70