Page 63 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 63

๔๙


                                                                             ุ
                                                                                        ุ
                                                                                                   ั
                       โลกทัศน์ของใครก็เป็นปรัชญาของคนนั้น โลกทัศน์ของชาวพทธจึงเป็น พทธปรัชญาฮกซ์เลย์
                       (Huxley) กล่าวว่า มนุษย์ด าเนินชีวิตไปตามปรัชญาชีวิต และโลกทัศน์ของเขา นี่เป็นเรื่องจริงแม้กับผู้
                                                                                    ุ
                       ที่ไร้ความคิดที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะ มีชีวิตอยู่โดยไม่มีอภิปรัชญา พทธปรัชญาที่เป็นแนวทาง
                                                                ๕๓
                       ด าเนินชีวิตของชาวพุทธมีพระไตรปิฎกเป็นแม่แบบ

                                                         ุ
                                 ค าถามประการต่อมาก็ คือ พทธปรัชญาในพระไตรปิฎกเป็นระบบมากน้อยเพยงไรค าว่า
                                                                                                 ี
                       ระบบ มีความหมายหลายอย่าง ในที่นี้ระบบ (System) หมายถึงกลุ่มความคิดที่เป็นระเบียบ
                        (An ordered set of ideas)  ในระบบปรัชญาหนึ่ง แนวคิดปรัชญาจะประสานสอดคล้องกลมกลืน
                                               ๕๔
                                                                                ื่
                       กันจนไม่มีแนวคิดใดที่แยกอยู่ลอย ๆ หรืออยู่อย่างขัดแย้งกับแนวคิดอนในระบบปรัชญาเดียวกัน เมื่อ
                       พิจารณาในเกณฑ์นี้ปรากฏว่ามีแนวคิดหลายประการในพระไตรปิฎกที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกันเช่น พุทธ

                                                                                           ุ
                                  ฺ
                       พจน์ที่ว่า สพเพ ธมฺมา อนตฺตา ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่มีตัวตน น่าจะขัดแย้งกับพทธพจน์ที่ว่า  อตฺ
                       ตาหิอตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พงของตน หรือพทธพจน์ ว่า สพเพ สงฺขารา ทุกฺขา สังขารทั้งหลายทั้ง
                                                                           ฺ
                                                              ุ
                                                 ึ่
                                                                                                 ๕๕
                       ปวงเป็นทุกข์ น่าจะขัดแย้งกับพุทธพจน์ที่ว่า สุโข ปุญญสส อุจจโย การสั่งสมบุญน าสุขมาให้
                                                                             ุ
                                 สภาพการณ์ดังกล่าวอาจท าให้บางคนเข้าใจผิดคิดว่าพทธพจน์ขัดแย้งกัน เองหรือไม่ก็คิด
                                                         ั
                                                                                                 ุ
                       ว่าแนวทางปรัชญาในพระไตรปิฎกไม่สัมพนธ์กันเป็นระบบที่ดี ใน ความเป็นจริงนั้น พระพทธเจ้าทรง
                                                                         ุ
                       แสดงธรรมอย่างสอดประสานกลมกลืนต่อกัน (Consistency) พทธธรรมที่ดูเหมือนจะหลากหลายนั้นได้
                       โยงใยสู่หลักการเดียวกัน คือเรื่องทุกข์กับความดับทุกข์ ดังที่พระพทธเจ้าทรงยืนยันว่า อนุราธะ ใน
                                                                              ุ
                                                                               ๕๖
                                                                                                    ุ
                       อดีตก็ดี ในปัจจุบันก็ดี เราสอนแต่เรื่องทุกข์กับความดับทุกข์เท่านั้น  นั่นหมายถึงว่าพระ พทธเจ้า
                       ทรงใช้เวลา ๔๕ ปี สอนเรื่องอริยสัจ ๔ ด้วยส านวนภาษาและวิธีอธิบายที่หลากหลายตามอุปนิสัยและ
                                                                           ี
                       บารมีของผู้ฟงในขณะนั้น บางครั้งพระองค์ทรงแสดง ธรรมเพยงหัวข้อสั้น ๆ แก่ผู้มีสติปัญญาดี ซึ่ง
                                  ั
                                         ื่
                         ั
                       ผู้ฟงเองเข้าใจ บุคคลอน ๆ ที่มีระดับสติปัญญาต่างกันอาจไม่เข้าใจในเหตุผลแต่ก็มีศรัทธาคล้อยตาม
                       ค าสอนโดยง่าย ทั้งนี้ก็ด้วยแรงบันดาลใจที่เกดจากอ านาจแห่งบุคลิกภาพของพระพุทธเจ้า การซักถาม
                                                           ิ
                         ื่
                       เพอวิพากษ์วิจารณ์หาเหตุผลรอบด้านจึงไม่เกิดขึ้น ดังกรณีที่พระพทธเจ้าไม่ทรงตอบอพยากตปัญหา
                                                                              ุ
                                                                                              ั
                                                                                           ี
                       ๑๐ ข้อ แม้เหตุผลของการไม่ตอบนั้นไม่ชัดเจนนัก ก็ไม่มีใครกล้าซักถามอย่างละเอยด ปล่อยให้พระ






                                 ๕๓  Challerjce.S. and Datta, D., AnIntrolirion10 Indian Philosophy, (University of

                       Calcutta, 1986), p. 1.
                                 ๕๔  Longman Dictionary of Contemporary English, p. 1197.
                                 ๕๕  op.eit.
                                 ๕๖ ส .ส. (ไทย) ๑๕/๔๑๑/๑๔๘.
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68