Page 62 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 62
๔๘
วิธีของเฮเกล (Hegel) และทฤษฎีสสารนิยมวิภาษวิธีของฟอยเออร์บัค (Feuerbach) ซึ่งทฤษฎีนี้มี
ั
ความเชื่อว่า สสารมีความส าคัญอนดับหนึ่งในการแก้ปัญหาทางปรัชญา ส่วนจิตมีความส าคัญที่
๕๐
รองลงมาจากสสาร มาร์กซ์ยอมรับว่า โลกเป็นสสารที่มีความเคลื่อนไหวและเกิดขึ้นมาใหม่อยู่เสมอ
การเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงแบบไร้กฎเกณฑ์ใด ๆ หากแต่เป็นไปตาม
กฎเกณฑ์ ๓ ประการ คือ
(๑) การแปรสภาพจากปริมาณไปสู่คุณภาพ
(๒) เอกภาพและความขัดแย้งของสิ่งที่ตรงกันขาม
้
(๓) การปฏิเสธย้อนปฏิเสธ๕๑
๒.๓ อภิปรัชญาในอภิธรรมปิฎก (Metaphysics in AphidhammaPitaka)
ั
ุ
พระพทธศาสนาเถรวาทมีแนวคิดทางปรัชญาที่โยงใยกันเป็นระบบ (System) อนรัดกุม
พอที่จะจัดเป็นพทธปรัชญาเถรวาท ภาพรวมแห่งระบบนั้นปรากฏไม่ชัดเจน เพราะนักศึกษาพทธ
ุ
ุ
ปรัชญามักให้ความสนใจต่อแนวคิดเฉพาะเรื่อง เช่น อริยสัจ ๔ ปฏิจจสมุปบาท ซึ่งมีอยู่กระจัด
ั
ั
กระจายในพระไตรปิฎกโดยไม่ใส่ใจเรื่องความสัมพนธ์ระหว่างแนวคิดเหล่านั้น ความสัมพนธ์แห่ง
ุ
ื่
ุ
แนวคิดทางปรัชญาที่ส าคัญ ๆ เพอแสดงภาพรวมของระบบพทธปรัชญาเถรวาทพระพทธเจ้าทรง
แสดงเทศนาในฐานะเป็นค าสอนทางศาสนาก็จริง แต่ในค าสอนนั้นก็มีแนวคิดทางปรัชญาแทรกอยู่
ศาสนาในอนเดียทั่วไปแยกไม่ออกจากปรัชญา ทั้งนี้เพราะคัมภีร์พระเวทของศาสนาพราหมณ์ไม่ได้
ิ
เป็นที่ยอมรับของ ศาสนาฝ่ายนาสติกะ คือ พระพทธศาสนาและศาสนาเชน การปะทะโต้แย้งทาง
ุ
ั
ความคิดระหว่างศาสนาพราหมณ์กับศาสนานาสติกะท าให้ปรัชญาพฒนาในร่มธง ของศาสนา ศาสนา
แต่ละศาสนามุ่งเสนอค าสอนเกี่ยวกับโลกและชีวิตอย่างมีเหตุผล มีระบบ
๕๒
ุ
ค าสอนเหล่านั้นได้สร้างโลกทัศน์ให้กับศาสนิก โลกทัศน์ของชาวพทธย่อมต่างจากโลก
ิ
ทัศน์ของพราหมณ์ โลกทัศน์นั้นแหละ คือปรัชญา นักปรัชญาอนเดียเรียกว่า ทรรศนะ (Darsana)
แปลว่า การหยั่งเห็นสัจธรรม (Vision of Truth) ทรรศนะนี้ก็ คือโลกทัศน์นั่นเอง โลกทัศน์ คือมุมมอง
ื่
ชีวิตที่ มนุษย์ใช้ตีความประสบการณ์เพอเลือกทางด าเนินชีวิต มนุษย์ทุกคนมีโลกทัศน์ด้วย กันทั้งนั้น
ั
ั
๕๐ ชยวัฒน์ อัตพัฒน์, ปรชญาตะวันตกสมัยใหม่ ๒, (กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามค าแหง
,๒๕๔๕), หน้า ๒๒๗.
๕๑ อ้างแล้ว.
ุ
ั
๕๒ พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต),พทธศาสนากับปรชญา, (กรุงเทพมหานคร: ม.ป.ท.
๒๕๓๓), หน้า ๒.

