Page 66 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 66

๕๒


                                    (๑) รูป (Corporeality) เป็นองค์ประกอบฝ่ายวัตถุหรือสสารและพลังงาน ร่างกาย
                                                                              ุ
                       ของมนุษย์มาจากรูปนี้ รูปมี ๒๔ ประการ คือ มหาภูตรูป ๔ และอปาทายรูป ๒๔ ในที่นี้ มหาภูตรูป
                       หมายถึงสิ่งที่มีคุณภาพปฐมภูมิ (Primary Qualities) ๔ ชนิด คือ (๑) ธาตุดินเป็นสภาวะที่แผ่ไปหรือ
                                                 ิ
                       กินที่ (๒) ธาตุน้ าเป็นสภาวะที่เอบ อาบซึมซาบ (๓) ธาตุไฟเป็นสภาวะให้ความร้อนหรืออณหภูมิ และ
                                                                                               ุ
                       (๔) ธาตุลม เป็นสภาวะที่เคลื่อนไหว อปาทายรูปหมายถึง รูปที่สืบเนื่องมาจากมหาภูตรูปมีคุณ ภาพ
                                                       ุ
                       ทุติยภูมิ (Secondary Qualities) อปาทายรูปมี ๒๔ เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รูป เสียง กลิ่น รส
                                                    ุ
                       สัมผัส เป็นต้น


                                   มีข้อสังเกตว่า รูปเป็นขณิกะ คือเกิดดับทุกขณะ ไม่มีรูปใดด ารงอยู่คงที่ ถาวร
                       นอกจากนั้น แม้ธาตุ ๔ คือ ดิน น้ า ลม ไฟ มีลักษณะต่างกันก็จริง แต่ก็เกิดร่วมกันเป็นกลุ่มก้อน (กลา

                       ปะ)ตลอดเวลา ไม่มีธาตุใดเกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระ จากธาตุอื่น อัตราส่วนผสมของธาตุเหล่านั้น ก าหนด
                       ลักษณะของผลผลิต เช่น กลุ่ม ที่มีธาตุดินมากจะเป็นของแข็ง กลุ่มที่มีธาตุน้ ามากจะเป็นของเหลว

                       กลุ่ม รูปเล็ก ที่สุด ซึ่งแบ่งแยกต่อไปอกไม่ได้ที่เรียกว่าอวินิพโภครูป ซึ่งหมายถึงปรมาณูอะตอม
                                                       ี
                       (Atom) ในพทธปรัชญา (ค าว่า Aton) เป็นภาษากรีกแปลว่า Uncutableแบ่ง แยกไม่ได้) อวินิพโภค
                                 ุ
                       รูปนี้เป็นกลุ่มธาตุเดิมแท้ (สุทธัฏฐกลาป) มีองค์ประกอบ ๘อย่าง คือ ดิน น้ า ลม ไฟ สี กลิ่น รส โอชา

                       องค์ประกอบเหล่านี้เป็นสหุปปันธรรม คือเกิดร่วมกันตลอดเวลาตามกฏปฏิจจสมุปบาท วิสุทธิมรรค

                       กล่าวสรุปเรื่องนี้ไว้ว่า ธาตุทั้งหลายนั้นเกิดร่วมกันเสมอ แยกออกจากกันเป็นสัดส่วนมิได้ แม้ในกลุ่ม
                       เล็กที่สุดเช่น สุทธัฏฐกลาป
                                            ๖๐

                                    (๒) เวทนา (Feeling) ได้แก่  คุณลักษณะประการหนึ่งของจิตหรือ วิญญาณคัมภีร์
                       ฝ่ายอภิธรรมจัดเวทนาเป็นเจตสิก คือ สิ่งที่ประกอบกับจิต เวทนา คือ ความรู้สึกสุขทุกข์ หรือเฉย ๆ


                                    (๓) สัญญา (Perception) เป็นเจตสิกเช่นกัน ท าหน้าที่ก าหนดรู้ และ จดจ าอาการ
                       และลักษณะต่าง ๆ ของอารมณ์ (สิ่งที่จิตรับรู้) เช่น สี สัมผัส สัณฐาน ชื่อ เป็นต้น


                                                                      ่
                                    (๔) สังขาร (Mental Formations) ได้แก  ลักษณะที่ประกอบจิตและ ปรุงแต่งจิตให้
                       ดี และเลว หรือเป็นกลาง ๆ ถ้าเปรียบจิตเหมือนน้ าสะอาดบริสุทธิ์ สังขารก็ คือสีต่าง ๆ ที่เจือผสมน้ า

                       คัมภีร์ฝ่ายอภิธรรมจัดสังขารเป็นเจตสิกจ านวน ๕๐ ชนิด เมื่อร่วมกับเวทนา และสัญญา จึงมีเจตสิก
                       ทั้งสิ้น ๕๒ ชนิด


                                    (๕) วิญญาณ (Consciousness) ได้แก่ ธรรมชาติที่รู้แจ้งอารมณ์ ทาง ตา หูจมูก ลิ้น
                       กายและใจ คัมภีร์ฝ่ายอภิธรรมนิยมเรียกวิญญาณว่า จิต





                                 ๖๐ มหามกุฏราชวิทยาลัย, วิสุทธิมรรคฉบับบาลี ภาค ๒, หน้า ๑๙๓.
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71