Page 81 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 81

๖๗


                                 ๕) รูปปวัตติกกมนัย หมายถึง การแสดงการเกิดขึ้นพร้อมกับความดับของรูปตามล าดับ
                       ในกามภูมิ ๑๑ รูป ๒๘ ย่อมเกิดได้ในรูปภูมิ ๑๕ (เว้นอสัญญสัตตภูมิ) รูป ๒๓ (เว้น ฆานะ ชิวหา กา

                       ยะ ภาวรูป ๒) ย่อมเกิดดับได้ในอสัญญสัตตภูมิ ๑ รูป ๑๗ (เว้นปสาทรูป ๕ สัททรูป ๑ ภาวนา ๒
                                                                                          ๙๐
                       หทยรูป ๑ วัญญัติรูป ๒) ย่อมเกิดได้ ในอรูปภูมิไม่มีรูปอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดได้เลย

                                 จากการวิจัยถึงรูปในอภิธรรมปิฎก ผู้วิจัยได้สรุปความหมาย และลักษณะของรูปไว้ว่า รูป
                       ทั้งหมดทั้งมหาภูตรูปและอปาทายรูปนั้นล้วนตกอยู่ภายใต้สามัญลักษณะมีการแปรปรวนไปตามเหตุ
                                             ุ
                       ปัจจัยหรือด้วยอวิโรธปัจจัยที่เป็นปฏิปักษ์ของรูปมีความเย็นร้อนเป็นต้น และรูปตกอยู่ภายใต้ ๒

                       ความหมายนี้ คือ มีความแปรปรวนของกระแสรูปที่เกิดต่อมาซึ่งต่างกับกระแสรูปที่เกิดก่อน และมี
                       สภาวะท าให้แปรปรวน ด้วยความเป็นเหตุแห่งการเกิดขึ้นของกระแสรูปที่เกิดต่อมาซึ่งต่างจากกระแส

                       รูปที่เกิดก่อนเพราะปัจจัยที่ตรงกันข้ามมีความเย็นและความร้อน และมีการเปลี่ยนแปลงไปกฏของ
                       สามัญลักษณ  ์


                                 ๔) นิพพาน

                                                                       ุ
                                 นิพพานถือว่าเป็นปรมัตถธรรมขั้นสูงสุดของพทธศาสนาเป็นสภาวะที่ไม่มีเครื่องร้อยรัด
                       คือตัณหาหรือสภาวะพ้นไปจากตัณหา โดยมีประเด็นต่าง ๆที่ผู้วิจัยได้ก าหนดไว้เพื่อการวิจัย ดังนี้

                                 ๔.๑ ความหมายของนิพพาน


                                 จิตตุปปาทกัณฑ์ ว่าด้วยปกิณกกถาในโลกุตตรกุศล ได้กล่าวเกี่ยวกับนิพพานสรุปได้ว่า
                       นิพพาน เป็นสภาวะอนเป็นที่ไม่มีเครื่องร้อยรัด คือตัณหาหรือสภาวะพนไปจากตัณหาหมายถึงเมื่อ
                                                                                  ้
                                         ั
                       พระอรหันต์ก าลังจะปรินิพพานด้วยนิพพานธาตุที่ไม่ขันธ์เหลือ ธรรมที่ประกอบด้วย ปัญญา สติ และ
                       นามรูป ย่อมดับ สงบ เข้าถึงการตั้งอยู่ไม่ได้ ย่อมระงับไปในอรหัตมรรคญาณเพราะการดับไปแห่ง

                       วิญญาณจิตดวงสุดท้ายหรือจุติจิตและในนิกเขปกัณฑ์ สุตตันติกทุกมาติกา ได้ให้ความหมายไว้ว่า

                                                                                     ้
                       นิพพาน จากศัพท์ที่ว่า จิตฺตสฺส จ อธิมุตฺต นิพพานญฺจ แปลว่า ความหลุดพนแห่งจิตและนิพพาน นี้
                                                                                               ้
                       สมาบัติ ๘ ชื่อว่า อธิมุตติ โดยความหมายว่า การหยั่งลงในอารมณ์ซึ่งหมายถึงหลุดพนด้วยดีจาก
                                  ๙๑
                       ปฏิปักษ์ธรรม
                                           ุ
                                                                                             ุ
                                 สมเด็จพระพทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ได้กล่าวไว้ในพจนานุกรมศัพท์พทธศาสน์ ฉบับ
                       ประมวลศัพท์ สรุปความได้ว่า บรรดาสมาบัติและนิพพานทั้งสองอย่างนี้ วิมุตติ เพราะหลุดพนแล้ว
                                                                                                    ้




                                 ๙๐   Buddhaghosa  Himi,  The  Path  of  Purification,  (Sri  Lanka:  Buddhist  Publication
                       Society, 2010), p.580.
                                 ๙๑ พระพุทธโฆสาจารย์,อัฏฐสาลินีคัมภีร์อรรถกถาของธรรมสังคณีปกรณ, หน้า ๖๘๒.
                                                                                     ์
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86