Page 82 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 82

๖๘


                                                                            ้
                                                                                                        ้
                       จากกิเลสที่ข่มไว้ได้ ประกอบด้วย ๑) ตทังควิมุตติ การหลุดพนจากธรรมคู่ปรับหรือการหลุดพน
                       ชั่วคราว ๒) วิกฺขมฺภนวิมุตติ  การหลุดพนด้วยการข่มหรือสะกดไว้ นิพพานที่ได้ชื่อว่า วิมุตติ เพราะ
                                                        ้
                       หลุดพ้นจากกิเลสโดยสิ้นเชิง ได้แก่  ๑) สมุจเฉทวิมุตติ การหลุดพ้นด้วยการตัดขาด ๒) ปฏิปัสสัทธิ คือ
                       พ้นด้วยความสงบ ๓) นิสสรณวิมุตติ คือพ้นด้วยออกไป
                                                                   ๙๒

                                 พระพทธทัตตเถระได้กล่าวถึงนิพพานไว้ในคัมภีร์อภิธัมมาวตาร สรุปความได้ว่า
                                      ุ
                       พระพทธเจ้าตรัสเรียกว่า นิพพาน เพราะหลีกออกจากตัณหาเป็นบรมสุขไม่มีปัจจัยปรุงแต่งจากตัณหา
                            ุ
                       เพราะตัณหาได้ชื่อว่า วานะ หมายถึงสภาพสืบต่อภพทั้งภพน้อยภพใหญ่ ดังพทธพจน์ที่ว่า สภาพสงบ
                                                                                      ุ
                                                 ุ
                       แห่งสังขารทั้งปวงสภาพสละอปธิทั้งปวงสภาพสิ้นไปแห่งตัณหาสภาพที่ไม่ก าหนัดยินดีสภาพดับ
                                              ๙๓
                       ตัณหาสภาพหลีกจากตัณหา

                                 มาติกาโชติกะธัมมสังคณสรูปตถนิสสยะในวิชชาทุกะ ได้ให้กล่าวถึงพระนิพพาน ไว้ในปฐม
                                                     ี
                       บทและทุติยบท พร้อมทั้งองค์ สรุปได้ดังนี้


                                 ๑) ปฐมปทวิชฺชา จ อตฺถิ สภาวะธรรม คือปัญญาที่ท าลายโมหะให้หมดสิ้นไปและกระท า
                       ความจริงให้ปรากฏมีอยู่


                                 ๒) องค์ธรรมของปฐมบท ได้แก่ปัญญาเจตสิกที่เป็นปุพเพนิวาสานุสสติญาณ,จุตุปปาต
                       ญาณอาสาวักขยญาณ,ปัญญาเจตสิกนี้จ าแนกเป็นสังขารขันธ์ ธัมมายตนะ ธัมมธาตุสัจจะ ๒ คือ

                       ปัญญาที่เป็นปุพเพนิวาสานุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ เป็นทุกขสัจจ์ ปัญญาเจตสิกที่เป็นอาสวักขย
                       ญาณ เป็นมัคคสัจจ์


                                                                                   ้
                                                                                                    ั
                                 ๓) ทุติยปท วิมุตฺติ จ อตฺถิ  สภาวธรรม คือสมาบัติ ๘ ที่พนจากนิวรณ์ธรรมอนเป็น
                       ปฏิปักขธรรมแห่งตนหรือพระนิพพานอันพ้นโดยเด็ดขาดจากกิเลสทั้งปวงมีอยู่

                                 ๔) องค์ธรรมของทุติยบท มหัคคตกุศลจิต ๙ มหัคคตกริยาจิต ๙ เจตสิก ๓๕ นิพพาน,
                       ธรรมเหล่านี้เมื่อจ าแนกโดยขันธ์ อายตนะ ธาตุสัจจะ  แล้วได้นามขันธ์ ๔ นิพพานเป็นขันธวิมุติ

                       มนายตนะ ธัมมายตนะ มโนวิญญาณธาตุ ธัมมธาตุ ทุกขสัจจ์ นิโรธสัจจกามจิต ๕๔ มหัคคตวิปากจิต

                                             ๙๔
                       ๙ โลกุตตระ ๘ เจตสิก ๕๒






                                 ๙๒ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต),พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์, หน้า ๓๗๙.

                                 ๙๓ พระพุทธทัตตเถระ, อภิธัมมาวตาร, แปลโดยพระคันธสาราภิวงศ์, หน้า ๒๗๗
                                                                               ี
                                                                                  ู
                                 ๙๔ พระสัทธัมมโชติกะ, มาตกาโชตกะ มาตกาโชตกะธัมมสังคณสรปตถนิสสยะ, (กรงเทพมหานคร:
                                                          ิ
                                                                ิ
                                                     ิ
                                                                     ิ
                       หจก.ทิพยวิสุทธ, ๒๕๕๕), หน้า ๒๐๕.
                                  ิ์
   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87