Page 87 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 87

๖๖


                                 พระภิกษุสามเณรในพระพทธศาสนาต่างครั่นคร้ามในวาทะของพระเจ้ามิลินท์ อยู่ไม่เป็น
                                                       ุ
                       สุขในเมืองสาคละพากันอพยพไปอยู่ที่อนหมดสิ้น เมื่อสาคละว่างพระสงฆ์สามเณรอยู่ถึง ๑๒ ปี
                                                         ื่
                                                                                                 ื่
                       จนกระทั่งคณะสงฆ์สมัยนั้นได้เลือกนิมนต์พระเถระผู้สามารถรูปหนึ่งมายังเมืองสาคละเพอโต้วาทะ
                       เรื่องศาสนาและปรัชญากับพระเจ้ามิลินท์ ท่านผู้นั้น คือพระนาคเสน พระเจ้ามิลินท์ทรงทราบข่าวนั้น

                       เสด็จไปสนทนาเป็นเชิงปุจฉาวิสัชนา อภิปรายปัญหาทั้งทางโลกและทางธรรมกันขึ้น เป็นเวลาหลาย

                                                        ้
                       วัน ผลปรากฏว่า พระเจ้ามิลินท์ยอมแพพระนาคเสน ข้อสนทนาระหว่างนักปรัชญาทั้ง ๒ ท่านนี้ได้
                       รวบรวมไว้เป็นคัมภีร์ส าคัญคัมภีร์หนึ่ง เรียกว่า “มิลินทปัญหา” ดังนั้นมิลินทปัญหาจึงเป็นปกรณ์มีมา

                       เก่าแก่และส าคัญปกรณ์หนึ่งในพระพทธศาสนา ไม่ปรากฏว่าท่านผู้ใดเป็นผู้รจนา เชื่อกันว่ารจนาขึ้น
                                                     ุ
                       ในราวพุทธศักราช ๕๐๐ ปรากฏตามมธุรัตถปกาสินี ฎีกาแห่งมิลินทปัญหาซึ่งรจนาโดยพระมหาติปิฎก

                                                                                       ื่
                       จุฬาภัย ว่าพระพุทธโฆษาจารย์เป็นผู้แต่งนิทานกถาและนิคมกถาประกอบเข้าเมอพทธศตวรรษที่ ๑๐
                                                                                                         ๑
                                                                                          ุ
                                 คัมภีร์มิลินทปัญหาตามประวัติเป็นคัมภีร์ที่แต่งขึ้นก่อนคัมภีร์วิสุทธิมรรคซึ่งเป็นผลงาน
                       ของพระพทธโฆษาจารย์จัดเป็นคัมภีร์ปกรณ์วิเสส คือคัมภีร์ที่อธิบายข้อธรรมบางข้อซึ่งเป็นผลงาน
                               ุ
                        ิ
                       อสระของพระเถระผู้แตกฉานในพระธรรมวินัยที่ได้เรียบเรียงขึ้นตามโครงเรื่องที่ท่านจัดวางเองหรือ
                                                                                   ๒
                       เกิดจากเหตุการณ์พิเศษเช่นการตอบคาถามชี้แจงข้อสงสัยของผู้อื่นเป็นต้น

                                                                                      ิ
                                 คัมภีร์มิลินทปัญหาเมื่อแบ่งตามยุคสมัยแล้วจัดเป็นคัมภีร์ปกรณพเศษก่อนสมัยอรรถกถา
                       ซึ่งอยู่ในสมัยเดียวกันกับเปฏโกปเทสคัมภีร์และเนตติคัมภีร์เป็นคัมภีร์อธิบายขยายความธรรมะตาม

                                              ๓
                       แนวการเขียนของผู้แต่งเอง แต่มิลินทปัญหามีลักษณะพเศษ คือได้ชี้ให้เห็นและสาธยายไว้ปรัชญา
                                                                      ิ
                                            ี
                       พทธเถรวาทอย่างละเอยดลออยิ่งกว่างานชิ้นใดทางพระพทธศาสนาในยุโรปจึงมีนักศึกษา
                        ุ
                                                                            ุ
                            ุ
                       พระพทธศาสนาเช่น Rhys Davidsถือว่าคัมภีร์มิลินทปัญหาเป็นบทความร้อยแก้วชั้นเยี่ยมของโลกมี
                       ในประเทศฝ่ายเถรวาทเช่นลังกา, พม่า, ไทยแต่ไทยเรามีสมบูรณ์ที่สุดเคยคิดกันว่าจีนซึ่งเป็นฝ่าย
                       มหายานนั้นไม่มีมิลินทปัญหาแต่ภายหลังก็ปรากฏว่ามีเหมือนกัน และมิลินทปัญหา อาจศึกษาได้ใน

                       เชิงปรัชญาตะวันตก โดยแบ่งออกเป็น ๓ หมวด คือ

                                 ๑. หมวดอภิปรัชญา (Metaphysics) ว่าด้วยจิต เจตสิก รูป นิพพาน และจักรวาลวิทยา






                                                                                  ์
                                                                                ิ
                                                  ุ
                                 ๑ สมเด็จพระสังฆราช (อฏฺฐายีมหาเถร), มิลินทปัญหาฉบับโรงพมพไท, ๒๔๗๐, หน้า พระนิพนธ์ค า
                       น า.
                                 ๒ พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต), รจักพระไตรปิฎกเพอเป็นชาวพทธที่แท้, พิมพ์ครั้งที่๒,
                                                                                      ุ
                                                            ู้
                                                                            ื่
                       (กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิพุทธธรรม, ๒๕๔๓), หน้า๙๖.
                                 ๓ สุภาพรรณณบางชาง, ประวัติวรรณคดีบาลีในอินเดยและลังกา, (กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์แห่ง
                                                                       ี
                                               ้
                       จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๒๖), หน้า๒๑๓.
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92