Page 88 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 88
๖๗
๒. หมวดญาณวิทยา (Epistemology) ว่าด้วยพทธญาณ และความรู้ระดับต่าง ๆ มี
ุ
ความรู้ระดับวิญญาณ เป็นต้น และความรู้โพธิญาณ เป็นที่สุด
๓. หมวดคุณวิทยา (Axiology) ว่าด้วยตรรกศาสตร์ สุนทรียศาสตร์ และจริยศาสตร์ เป็น
๔
ต้น
๓.๑.๑ ความส าคัญของคัมภีร์มิลินทปัญหา
ุ
มิลินทปัญหาเป็นคัมภีร์ปฐมเหตุแห่งการแต่งวรรณคดีพระพทธศาสนาเล่มแรกในยุคหลัง
พทธปรินิพพานที่มีหลักฐานปรากฏจนตราบเท่าทุกวันนี้ซึ่งกล่าวถึงหลักธรรมค าสั่งสอนของ
ุ
ุ
พระพทธเจ้าที่มีคุณค่าทั้งในด้านเนื้อหาสาระที่สอดคล้องต้องตามบาลีพระไตรปิฎกและในด้าน
อรรถรสแห่งวรรณคดีบาลีเป็นคัมภีร์อธิบายพทธปรัชญาที่มีลีลาการด าเนินเรื่องที่ชวนติดตาม
ุ
เช่นเดียวกับบทสนทนาของพลาโต้ (Dialogues of Plato) วิธีการที่พระนาคเสนใช้ตอบโต้ปรัปวาททา
ให้นึกถึงวิธีการที่โสเครตีสใช้หักล้างวาทะของนักปรปักษ์ในขณะที่คู่สนทนาของโสเครตีสเป็น
นักปราชญ์กรีกคู่สนทนาของพระนาคเสนก็เป็นกษตริย์กรีกมีนามว่าพระเจ้ามิลินท์ กล่าวโดยสรุปแล้ว
๕
ั
คัมภีร์มิลินทปัญหามีความส าคัญต่อพระพุทธศาสนาดังนี้
๑. มิลินทปัญหาเป็นคัมภีร์สืบทอดอายุพระพุทธศาสนาที่มั่นคงยาวนานออกไปจากห้าร้อย
ั
พระวัสสาเป็นห้าพนพระวัสสาตามค าขอของพระนาคเสนเพราะนาคเสนสามารถแก้ไขปริศนาธรรม
ู
ของสมเด็จพระเจ้ามิลินท์ได้จึงทาให้ชาวชมพทวีปมีความสนใจในหลักธรรมค าสอนของพระพทธเจ้า
ุ
มากขึ้นมีความต้องการที่จะศึกษาไตรปิฎกและมีการทาสังคายนาพระไตรปิฎกให้ปรากฏขึ้นอย่าง
มั่นคง
๒. มิลินทปัญหาเป็นคัมภีร์ที่ท าให้หลักธรรมค าสั่งสอนของพระพทธเจ้าเป็นที่เคารพย า
ุ
ิ
เกรงด้วยพระนาคเสนเป็นผู้เรียนจบพระไตรปิฎกและสามารถพจารณาจนกระทั่งส าเร็จเป็นพระ
อรหันต์ทั้งการเรียนและการปฏิบัติตามหลักสัทธรรม๓สามารถแก้ไขปัญหาของสมเด็จพระเจ้ามิลินท์ผู้
เป็นที่เคารพย าเกรงแกชาวประชาทั่วชมพทวีปพระสงฆ์จึงได้ศึกษาให้เข้าใจน าไปปฏิบัติให้ถูกต้องมีผล
่
ู
ตามมาจึงน าไปเผยแผ่รักษาหลักธรรมคาสั่งสอนของพระพทธเจ้าให้มั่งคงแล้วพระภิกษุสงฆ์จึงเป็น
ุ
บุคคลที่ควรแก่การกราบไว้และการอุปถัมภ์ปัจจัยเพื่อต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว
๔ สมัครบุราวาส, ปรีชาญาณของสิทธัตถะ, (กรุงเทพมหานคร: ส านักพิมพ์สยาม, ๒๕๓๗), หน้า๑๙๓.
ป
๕ พระเมธีธรรมาภรณ์ ( ร ะยูรธมฺมจิตฺโต), บรรณาธิการ, มิลินฺทปัญฺหาอฏฺฐกถาฎีกา,
(กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์วิญญาณ, ๒๕๓๐), หน้าบทน า.

