Page 23 - สารานุกรมภาพเครื่องแบบในสงครามโลกครั้งที่ 1 UNIFORMS OF WORLD WAR I
P. 23

22 บทน�ำ
                                                        เครื่องแบบ







                สงครามโลกครั้งที่ 1 ยังคงถูกมองว่าเป็นจุด  แดงจ้าและสีน�้าเงินไว้ด้วยเสื้อคลุมตัวหนาหรือ
                ก�าเนิดของสมัยใหม่เมื่อพิจารณาในแง่เครื่อง  เสื้อคลุมเกรทโค้ท (greatcoat) สีเทาหรือสี
                แบบ ที่จริงแล้วกองทัพส่วนใหญ่เปลี่ยนไปใช้  น�้าตาล เพื่อป้องกันมิให้เครื่องแบบที่ตัดเย็บจาก
                เครื่องแบบที่เราอาจเรียกว่าคล้ายกับเครื่องแบบ  ผ้าและย้อมสีธรรมชาติไม่ซีดในเวลารวดเร็ว
                ทหารในปัจจุบันแล้วตั้งแต่ก่อนปี 1914 ด้วยซ�้า     กองทหารในสงครามกลางเมืองอเมริกา
                ส่วนประเทศที่ยังปรับเปลี่ยนช้า (ฝรั่งเศส   (American Civil War ปี 1861-1865) มีความ
                เบลเยียมและออสเตรีย-ฮังการี) ก็พบวิธีการที่  จ�ากัดมากกว่า ส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนในการ
                จะตามให้ทันในปลายปี 1914           จัดหาของกองทัพใหญ่ๆ ที่เพิ่มขึ้นเร็วมาก แต่
                                                   ทหารในสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย (Fran-
                ข้อจ�ากัดของสี                     co-Prussian War, ปี 1870-1871) ก็กลับมา
                ย้อนกลับไปในสงคราม 7 ปี (Seven Year War,   สวมเครื่องแบบสีสดใสอีกครั้ง ซึ่งท�าให้เกิดสู่การ  ▲ เครื่องแบบทั้งหมดของทหารอังกฤษไม่ได้มีสีกากีเพียงสี
                ปี 1756-1763) ทหารราบเบาเยอรมันหรือทหาร  เสียชีวิตจ�านวนมากในทันที กล่าวคือเดือน  เดียว ในภาพแสดงเครื่องแบบในอินเดียในช่วงที่สงครามเริ่ม
                เยเกอร์ (jägers) แสดงตนด้วยเครื่องแบบสีเขียว  สิงหาคม 1870 ในการรบที่กราเวอโลต์   ต้นขึ้น
                เข้มกับยุทธภัณฑ์หนังสีด�า กองทหารยุโรปที่  (Gravelotte) อ�านาจการยิงท�าความเสียหายให้
                ปฏิบัติหน้าที่ในภูมิอากาศร้อนยังใช้เครื่องแบบสี  แถวปิดระยะของทหารปรัสเซียระหว่างการ  เช่นกัน เช่น ชาวบัลแกเรียใช้สีน�้าตาล ส่วน
                ขาว สีน�้าตาลอมเหลืองหรือสีน�้าตาล ใน  เคลื่อนเข้าสู่เมืองซองต์พรีวาต์ (St Privat) ผล  เยอรมันที่มีกองทัพทหารเกณฑ์ขนาดใหญ่เลือก
                สนามรบหลายแห่งที่ปกคลุมด้วยควันหนาและ  คือทหารปรัสเซียเสียชีวิตไป 20,163 นาย   ใช้สีเทาอมเขียว (field grey) ในปี 1910 รัสเซีย
                มีกองทหารที่ใช้อาวุธที่ไม่แม่นย�ามาก การพราง  กระทั่งเมื่อสิ้นสุดสงคราม เยอรมนีตระหนักว่า  น�าสีเขียวอ่อนมาใช้หลังจากแพ้สงครามกับ
                ตัวจึงไม่เคยน�ามาใช้งานจริงๆ ทั้งที่มีความ  ต้องท�าตัวให้เป็นเป้าที่เล็กที่สุดเท่าที่จะท�าได้   ญี่ปุ่นระหว่างปี 1904-1905 ส่วนฝรั่งเศสทดลอง
                ส�าคัญมากเนื่องจากผู้บัญชาการสามารถจดจ�า  และสีสันสดใสนั้นเป็นสิ่งที่โดดเด่นซึ่งไม่เป็นที่  ผ้าสีน�้าตาลอมเทาเมื่อปี 1911 แต่ไม่ได้รับการ
                และควบคุมกองทหารของตนได้จากระยะไกล   ต้องการ                          อนุมัติอย่างเป็นทางการ กองทัพฝรั่งเศสใช้
                จึงน�าไปสู่ยุทธวิธีของแถวและแนวทหารราบที่                             สีน�้าเงินและสีแดงเมื่อเข้าร่วมสงครามในฤดูร้อน
                แต่งกายด้วยสีสันสดใสวิ่งสลับไปมาในสนามรบ  การปรับปรุง                 ปี 1914 ขณะเดียวกันกลุ่มอนุรักษนิยมก็ออกมา
                ยุโรป ทว่าแม้แต่กองทัพนโปเลียนซึ่งมีชื่อเสียง  อังกฤษเรียนรู้จากสงครามโบเออร์ (1899-1902)  คัดค้านโดยให้ความเห็นว่าลายพรางเป็นการ
                ในด้านสีสันอร่ามงามก็ยังคลุมทับเครื่องแบบสี  ประกอบกับแรงกดดันจากนายทหารที่ปฏิบัติ  แสดงความขลาด ดังนั้นกลยุทธ์ของฝรั่งเศสจึง
                                                   หน้าที่ในอินเดีย น�าไปสู่การน�าสีกากี (khaki)   เป็นการเคลื่อนที่ไปรอบๆ ให้ข้าศึกเห็นตัวแล้ว

                ▼ การรบที่ไอแซนด์ลวานา วันที่ 22 มกราคม 1879 ใน  มาใช้ทั่วทุกแห่งในปี 1908 ประเทศอื่นๆ ก็หัน  ข่มขวัญด้วยดาบปลายปืนโดยใช้สีสันสดใสช่วย
                ช่วงสงครามซูลู ทหารอังกฤษยังคงสวมเสื้อคลุมสีแดง  มาใช้ชุดหรือเสื้อผ้าที่ช่วยลดการมองเห็นด้วย  ในการนี้ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นบทเรียนราคาแพง

                                                                                      การรักษาระเบียบข้อบังคับ
                                                                                      เครื่องแบบที่ทหารสวมในการรบไม่ได้เป็นเครื่อง
                                                                                      แบบบังคับและกลายเป็นไร้กฎเกณฑ์ในเวลาไม่
                                                                                      นาน แต่ละกองทัพระเบียบว่าด้วยการแต่งกาย
                                                                                      และข้อบังคับที่มีรายละเอียดมากว่าด้วยโอกาส
                                                                                      การใช้เครื่องแบบ (เครื่องแบบเต็มยศ เครื่อง
                                                                                      แบบรบ) แต่ก็ไม่ได้ยึดถือเสมอไปในสนามรบ
                                                                                      ตัวอย่างเช่น ระเบียบของอังกฤษก�าหนดให้สวม
                                                                                      รองเท้าหุ้มข้อสีน�้าตาลในเครื่องแบบประจ�าวัน
                                                                                      แต่กลับสวมรองเท้าสีด�าเป็นส่วนใหญ่ การปรับ
                                                                                      เปลี่ยนเหล่านี้เกิดขึ้นดังเห็นได้จากภาพถ่ายร่วม
                                                                                      สมัย หรือรายละเอียดที่บอกเล่าไว้ในบันทึก
                                                                                      ความทรงจ�าและจดหมาย บางครั้งก็ได้รับ
                                                                                      อนุญาตจากนายทหาร บางครั้งก็ไม่
                                                                                        การจัดหาสิ่งอุปกรณ์ท�าให้กองทัพต่างๆ
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28