Page 43 - นาวิกศาสตร์ ธันวาคม ๒๕๖๒
P. 43
ั
�
(utilitarianism) ท้งสองสานักมองว่ามนุษย์มาอยู่ร่วมกัน “ความอยู่รอด” เป็นเสมือนหนึ่งกติกาส�าคัญระหว่างรัฐ
ื
่
ั
�
ั
�
ั
ในสงคมเนองมาจากการมีบรรทดฐานร่วมกน และ รัฐจาเป็นต้องดาเนินนโยบายเพื่อความอยู่รอดก่อน
ผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ในทางความสัมพันธ์ระหว่าง แล้วประเด็นทางความยุติธรรม หรือจริยธรรมค่อยตามมา
ประเทศบรรทัดฐานร่วมกันระหว่างประเทศต่าง ๆ น้น ประการที่สอง ปัจจัยทางความคิดในความสัมพันธ์
ั
ี
ไม่ชัดเจนเท่าใดนัก ผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างรัฐ ระหว่างประเทศ กฎเกณฑ์ท่มีอยู่มิได้มีเพียงอย่างเดียว
ุ
็
ื
่
ั
็
่
ั
ั
ั
ี
ั
กมลกษณะชวครงชวคราวเท่านน เหตผลหลกกคอ และกฎเกณฑ์หลายประการก็มีลักษณะขัดกับหลักการ
้
ั
้
ไม่มีอานาจกลาง (central power) ระหว่างรัฐในการ ทางจริยธรรมด้วย เช่น หลักการแทรกแซงเพ่อ
�
ื
จัดระเบียบให้เกิดข้น ฮอฟแมนยกตัวอย่างความคิดของ มนุษยธรรม หรือหลักการโจมตีก่อน (preemption)
ึ
ี
ี
ึ
ฌ็อง-ฌัก รูโซ (Jean-Jacques Rousseau) ซ่งมองว่า แต่หลักการร่วมท่ส�าคัญของรัฐท่ไม่เข้ากับหลักจริยธรรม
ั
ในสภาวะอนาธิปไตยระหว่างประเทศ รัฐจะเป็นห่วงและ เป็นอย่างยงคือ “ความเหนแก่ประโยชน์ตนเองของรฐ
ิ
่
็
ื
ั
ี
คิดคานวณแต่เร่องผลประโยชน์ของตนเองเท่าน้น และ (national egoism)” ประเด็นน้จึงเป็นอุปสรรคอีกประการ
�
ั
�
ผลประโยชน์ดงกล่าวจะแปรผนไปตามสถานการณ์ หนึ่งในการท่รัฐไม่สามารถดาเนินนโยบายให้สอดคล้อง
ั
ี
ท่เปล่ยนแปลงไป ด้วยเหตุน้หลักจริยธรรมท่ชัดเจนตายตัว กับหลักจริยธรรมได้
ี
ี
ี
ี
ระหว่างรัฐจึงเกิดข้นได้ยาก ประการสุดท้าย ปัจจัยทางการเมืองสภาวะอนาธิปไตย
ึ
๒ ). เหตุใดทางเลือกในการดาเนินนโยบายต่างประเทศ ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทาให้การเมืองมีความ
�
�
จึงมีไม่มากนัก ไม่แน่นอนสูงมาก การเมืองระหว่างประเทศมีลักษณะ
ี
�
ี
ี
ฮอฟแมนช้ถึงเหตุท่ทาให้หลักจริยธรรมท่ชัดเจน เป็นพลวัตสูง (dynamic) การประเมินสถานการณ์
ตายตัวระหว่างรัฐเกิดข้นได้ยากไว้ ๓ ประเด็น คือ ปัจจัย ของผู้นารัฐจึงมีอุปสรรคมาก ก่อให้เกิดการตีความ
�
ึ
ทางโครงสร้าง (structural reason) ปัจจัยทางความคิด ในสถานการณ์ในทางลบเสียเป็นส่วนมาก ผลการ
�
(philosophical reason) และปัจจัยทางการเมือง ดาเนินนโยบายจึงขัดกับหลักจริยธรรมได้ง่าย อีกท้ง
ั
่
(political reason) ซงมีรายละเอยดดงต่อไปน ้ ี ผู้นารัฐก็มีข้อจากัดทางจริยธรรมจากภายในประเทศ
ั
ี
�
ึ
�
ั
ึ
ประการแรก ปัจจยทางโครงสร้าง มนษย์ในฐานะปัจเจก ซ่งมาจากการเรียกร้องของประชาชน และสถานการณ์
ุ
ี
บุคคลมีทางเลือกในการประพฤติตามหลักจริยธรรมได้ ทางการเมืองในรัฐของตนท่บีบให้ผู้นารัฐจาเป็นต้อง
�
�
�
้
แต่เม่อมารวมกันเป็นกลุ่มแล้ว มนุษย์ในฐานะกลุ่มบุคคล ดาเนนนโยบายเพอตอบสนองการเรยกรองจากภายในรฐ
ื
ี
่
ิ
ั
ื
จะมีพฤติกรรมในการปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง และอาจก่อให้เกิดการละเมิดจริยธรรมของรัฐอ่น
ื
ิ
�
โดยเฉพาะอย่างย่ง เม่อก่อเกิดเป็นรัฐแล้วผู้นารัฐ ฮอฟแมนท้งท้ายด้วยการประเมินว่าจะเกิดผลอย่างไร
ื
ิ
จาเป็นอย่างย่งท่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ กับการท่ผู้นารัฐมีข้อจากัดในการดาเนินนโยบาย
�
ี
�
ี
�
ิ
�
ั
ึ
อย่างเต็มท ดังน้นโอกาสในการละเมิดหลักจริยธรรม ต่างประเทศให้สอดคล้องกับหลักจริยธรรม ซ่งสรุปได้ว่า
่
ี
เม่อมนุษย์มารวมตัวกันเป็นรัฐจึงเกิดข้นได้ง่ายอย่างย่ง ผู้นารัฐจะให้นาหนักกับประเด็นทางจริยธรรมระหว่าง
ื
�
ิ
ึ
้
�
ื
ึ
อีกประการหน่งเป็นเร่องความแตกต่างระหว่างการเมือง ประเทศในลาดับท้าย ๆ ในนโยบายต่างประเทศ และ
�
�
�
ี
ภายในกับการเมืองระหว่างประเทศ สาหรับการเมือง การทาเช่นน้อย่างต่อเน่องของรัฐต่าง ๆ ก่อให้เกิดหลัก
ื
ี
ึ
ี
ภายใน รัฐจะมีกรอบกฎเกณฑ์ท่สมาชิกจะต้องปฏิบัติตาม จริยธรรมข้นมาใหม่ท่แยกออกจากระบบจริยธรรมสากล
อย่างชัดเจนซ่งจะสอดคล้องกับหลักจริยธรรมต่างจาก ซึ่งก็คือรัฐจะมองเพียงว่าอะไรก็ตามท่ตอบสนอง
ึ
ี
ี
่
ุ
่
ิ
ิ
การเมืองระหว่างประเทศท่มีลักษณะอนาธิปไตย ต่อผลประโยชน์แห่งชาตเป็นสงทถกต้องชอบธรรมทสด
ี
ู
่
ี
ี
ไม่มีกฎเกณฑ์ท่แน่นอนตายตัว และเป็นท่รู้กันว่า ไม่ว่าผลประโยชน์น้นจะได้มาด้วยวิธีการใดก็ตาม
ั
ี
นาวิกศาสตร์ 41
ปีที่ ๑๐๒ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๒

