Page 114 - หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
P. 114
114
ตลอดเวลา” เป็นกรณีทผู้ครอบครองยึดถือทรัพย์สินไม่ได้ครอบครองทรัพย์สินติดต่อกันตลอดไป แต่ผู้
ี่
ิ
ครอบครองสามารถนำสืบพสูจน์ได้ว่าตนได้ครอบครองยึดถือทรัพย์สินนั้นสองคราว กล่าวคือมีการ
ครอบครองครั้งแรกและเว้นระยะเวลาไป แล้วกลับมาครอบครองครั้งหลังอีก ดังนี้กฎหมายถือว่าผู้นั้น
ครอบครองยึดถือทรัพย์สินนั้นติดต่อกันตลอดเวลา สามารถนับรวมระยะเวลาทั้งสองคราวนั้นต่อเนื่อง
ได้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการนับระยะเวลาครอบครองปรปักษ์
4. สันนิษฐานว่าเป็นสิทธิตามกฎหมาย
ข้อสันนิษฐานที่ว่า “สิทธิซึ่งผู้ครอบครองใช้ในทรัพย์สินที่ครอบครองนั้น ให้สันนิษฐาน
ไว้ก่อนว่าเป็นสิทธิซึ่งผู้ครอบครองมีตามกฎหมาย” เป็นกรณีที่กฎหมายให้การรับรองและคุ้มครอง
สิทธิให้ โดยถือว่าสิทธิของผู้มีสิทธิครอบครองที่มีต่อทรัพย์สินที่ตนครอบครองยึดถืออยู่นั้นเป็นสิทธิที่
ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการกำหนดหน้าที่นำสืบตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ผู้ใดกล่าวอ้าง
หรือโต้แย้งว่าเป็นสิทธิที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นย่อมมีหน้าที่นำสืบพิสูจน์หักล้าง โดยที่ผู้ครอบครอง
ไม่ต้องนำสืบว่าตนเองครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น อ้างว่าที่ดินมือเปล่าเป็นมรดกของมารดา
ิ
ที่ตกได้แก่ทายาททั้งสอง ทายาทคนแรกให้การว่ามารดายกให้ตนคนเดียวและปรากฏว่าที่ดินพพาท
้
ตนได้ครอบครองเพอตนมากว่า 10 ปี จึงเป็นการปฏิเสธฟองทายาทอกคน ทายาทคนแรก ย่อมได้รับ
ื่
ี
้
ประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามมาตรา 1369 และมาตรา 1372 ทายาทที่ฟองจึงต้องนำสืบว่าตนเป็น
ผู้มีสิทธิครอบครอง สันนิษฐานผู้ครอบครองทรัพย์ที่ไม่มีทะเบียนผู้นั้นเป็นเจ้าของ เพราะใช้สิทธิใดให้
สันนิษฐานชอบด้วยกฎหมาย คนอื่นต้องพิสูจน์หักล้าง รวมทั้งผู้เช่าใช้สิทธิใดให้สันนิษฐานว่าใช้ไปโดย
ิ
ชอบด้วยกฎหมาย เจ้าของต้องพสูจน์หักล้างว่าสัญญาห้ามใช้สิทธิเช่นนั้น และสัญญาต้องระบุว่าผู้เช่า
ไม่มีสิทธิอะไรบ้าง
5. สันนิษฐานว่ามีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง
ข้อสันนิฐานที่ว่า “ถ้าทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดไว้ในทะเบียนที่ดิน ให้
สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง” เป็นบทสันนิษฐานที่ใช้เฉพาะ
ิ
กรณีการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่มีทะเบียน ทะเบียนในทีนี้ตามคำพพากษาศาลฎีกาหมายถึง
โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ผู้มีชื่อในโฉนด หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
ี
กฎหมายสันนิษฐานว่ามีการครอบครอง มีสิทธิครอบครอง ใครจะเพียงอ้างว่าไม่มสิทธินั้น ผู้นั้นจะต้อง
ื่
พิสูจน์หักล้างให้ได้ เช่น พิสูจน์ได้ว่าตนเข้าไปยึดถือโดยเจตนายึดถือเพอตนแล้ว พิสูจน์ได้ว่าเริ่มเมอใด
ื่
ก็มีการครอบครองก็จะได้สิทธิครอบครอง แต่ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ย่อมไม่มีการครอบครอง

