Page 171 - วิทยาศาสตร์ ม.ปลาย
P. 171
163
4) เกณฑ์การแบ่งตามลกั ษณะโครงรูปทงั โมเลกลุ สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
4.1 โปรตนี ลกั ษณะแบบเส้นใย (fibrous protein) เป็นโปรตีนทีโมเลกุลมีลกั ษณะเป็ นเส้นยาว
สายพอลิเมอร์จะเรียงตวั เป็ นระเบียบมีความแข็งแรง เหนียว ยดื หย่นุ ไดม้ าก และมกั จะไม่ละลายนํา เช่น
โปรตีนในเสน้ ผม โปรตีนในเสน้ ขน โปรตีนในเสน้ เอน็ โปรตีนในเขาสตั ว์ โปรตีนในเสน้ ไหม เป็นตน้
4.2 โปรตีนลกั ษณะเป็ นก้อน (globular protein) เป็ นโปรตีนทีมีสายพอลิเพปไทดพ์ นั ไปมา
และอดั กนั แน่น ทาํ ให้มีลกั ษณะเป็ นกอ้ น บางส่วนของสายเพปไทด์อาจทบกนั อย่างเป็ นระเบียบหรือมี
ลกั ษณะเป็นเกลียว หรือเป็นแผน่ เช่น โปรตีนพวกเอนไซม์ โปรตีนพวกฮีโมโกลบิน โปรตีนพวกฮอร์โมน
โปรตีนทีอยใู่ กลก้ ลา้ มเนือ เป็นตน้
ความสําคญั ของสารอาหารประเภทโปรตนี ต่อสิงมชี ีวติ
1. เป็นสารอาหารทีใหพ้ ลงั งานแก่ร่างกาย โดยโปรตนี 1 กรัม จะใหพ้ ลงั งานประมาณ 4.1
กิโลแคลอรี ซึงเท่ากบั สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต
2. เป็นส่วนประกอบของเซลล์ โดยเป็นองคป์ ระกอบของเยอื หุม้ เซลลแ์ ละโพรโทพลาสซึม
ของเซลล์
3. เป็นโครงสร้างของผวิ หนงั เสน้ ผม และขน
4. ช่วยในการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนทีสึกหรอในร่างกาย โดยร่างกายจะนาํ โปรตีนไปใช้
ในการสร้างเนือเยอื ใหม่
5. ช่วยในการหดตวั ของกลา้ มเนือ ทาํ ใหส้ ิงมชี ีวติ สามารถเคลือนไหวได้
6. เป็นสารทีทาํ หนา้ ทีสาํ คญั ต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น
- ทาํ หนา้ ทีในการลาํ เลยี งออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์
- สร้างภมู ติ า้ นทานใหแ้ ก่ร่างกาย
- ช่วยกระตุน้ การเกิดปฏกิ ิริยาเคมตี ่าง ๆ ในร่างกาย
7. สามารถเปลียนเป็ นคาร์โบไฮเดรต และไขมันได้ โดยพบว่ากรดอะมิโนชนิดหนึงอาจ
เปลียนแปลงไปเป็นกรดอะมโิ นอนื ๆ ได้
เรืองที 2 คาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรต (Cabohydrate) เป็ นสารประกอบอินทรียท์ ีเป็ นแหล่งให้พลงั งานและคาร์บอน
ทีสาํ คัญของสิงมีชีวิตเพือนาํ ไปใชใ้ นการดาํ รงชีวิตและสร้างสารอืนๆต่อไป โมเลกุลของคาร์โบไฮเดรต
ประกอบดว้ ยอะตอมของธาตุ คาร์บอน (C) ไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (O) โดยมอี ตั ราส่วนของอะตอม
ไฮโดรเจนต่อออกซิเจน เท่ากบั 2:1 (H:O = 2:1) จาํ นวนและการเรียงตวั ของอะตอมทงั สามธาตุนีแตกต่าง
กนั จึงทาํ ใหค้ าร์โบไฮเดรตมีหลายชนิด เช่น นาํ ตาลกลูโคส (C6H12O6) นาํ ตาลซูโครส(C12H22O11) แป้ ง
(C6H10O5)n

