Page 58 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 58

๔๔


                                 ทฤษฎีธรรมชาตินิยม (Naturalism) เป็นระบบแนวความคิดที่อยู่ระหว่างจิตนิยมและ
                       สสารนิยม ทฤษฎีนี้บางทีเรียกว่า ปรัชญาธรรมชาตินิยม หรือปรัชญาสัจนิยม แต่โดยเนื้อหาแล้ว

                       ธรรมชาตินิยมใกล้เคียงกับสสารนิยมมาก จนนักปรัชญาบางท่านไม่แยกธรรมชาตินิยมออกจากสสาร
                       นิยมเนื่องจากว่าสสารนิยมเป็นกระบวนการที่เกิดมีเองตามธรรมชาตินอกเหนือจากจิต เช่น ก้อนหิน

                       ก้อนเมฆ หรือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนเป็นตัวอย่างหรืออาศัยธรรมชาติเกิดขึ้น แล้วด ารงอยู่ในระบบ

                       อวกาศ เวลา และกระบวนการทุกอย่างที่เป็นไปตามเหตุและผลของมันเอง

                                 ธรรมชาตินิยมเริ่มต้นจากแนวคิดทางตะวันตกโดยนักปรัชญากรีกโบราณ ซึ่งปรัชญากรีก

                       ในยุคแรก ๆ เป็นปรัชญาของชาวกรีกที่ไม่นับถือคริสต์ศาสนา การอธิบายปัญหาต่าง ๆ ไม่ได้อาง
                                                                                                        ้
                       ต านานเทพเจ้า หรือมีนักปรัชญาบางท่านจะคงรักษาร่องรอยของต านานเทพเจ้าอยู่บ้าง แต่ทว่าการ

                       พจารณาปัญหาและสนับสนุนค าตอบนั้นใช้เหตุผลเป็นหลัก แม้บางครั้งจะเชื่อในเรื่องของประจักษ์
                        ิ
                                      ้
                       สัมผัส แต่ก็ยังคงอางเหตุผลสนับสนุนความเชื่อถือ หรือไม่เชื่อถือของตนอยู่อยู่นั้นเอง สิ่งที่นักปรัชญา
                       กรีกโบราณพากันสนใจนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ โดยเฉพาะในเรื่องของความมีอยู่ (Being) ของ

                       วัตถุทมีอยู่ในโลกและจักรวาลวัตถุ (Cosmic Matter) กล่าว คือความแท้จริงที่สมบูรณ์ หรือความจริง
                            ี่
                       ทางอภิปรัชญาที่ภววิทยา (Ontology) ถือว่าเป็นสสารที่แท้จริง นักปรัชญากรีกเหล่านี้ได้เป็นผู้บุกเบิก

                       ในการค้นคว้าหาค าตอบทางอภิปรัชญา หรือทางวิทยาศาสตร์  ผู้วิจัยได้สรุปแนวคิดทางอภิปรัชญาที่
                                                                         ๓๕
                       เป็นธรรมชาตินิยมไว้ดังนี้

                                 ๑) ธาเลส (Thales: ๖๒๔ – ๕๕๐ B.C.) ธาเลสได้พยายามค้นหาค าตอบให้กับตนเอง

                       จนในที่สุดก็ได้ผลสรุปว่า “น้ า” คือละอองธุลี หรือธาตุดั้งเดิมของโลก และเป็นจุดเริ่มต้นของสรรพสิ่ง
                       ซึ่งในที่นี้อาจจะสังเกตถึงหลักความเป็นจริงว่า ธาตุต่าง ๆ มากมายที่ท าให้ก าเนิดชีวิต เช่น อาหาร

                       ความร้อน และเมล็ดพนธุ์พช ล้วนประกอบด้วยความชื่นทั้งนั้น ฉะนั้นจักรวาลน่าจะเกิดจากการ
                                              ื
                                                                            ๓๖
                                          ั
                       รวมตัวของปฐมธาตุที่มีอนุภาคเล็กที่สุด คือน้ า น้ าหรือความชื้น คือที่มาของสรรพสิ่งทั้งหลาย ธาเลส
                       เชื่อว่า สิ่งต่าง ๆ เมื่อแยกส่วนลดทอนลงไปให้ถึงที่สุดจะเหลือความจริงสิ่งเดียว คือน้ า เพราะน้ าทรง
                                                                                             ๓๗
                       ประสิทธิภาพในการแปรรูปเป็นสิ่งต่าง ๆ น้ าจับตัวเป็นของแข็งก็ได้ ละลายเป็นของเหลวก็ได้ เมื่อ
                                ้
                       ละเหยขึ้นฟาน้ ากลายเป็นไอ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ น้ าแปรรูปเป็นไฟ แต่เมื่อน้ ากลายเป็นฝนตกลงมาสู่





                                 ๓๕ วิธาน สุชีวคุปต์, อภิปรัชญา, (กรุงเทพมหานคร: แสงจันทร์การพิมพ์, ๒๕๒๙), หน้า ๒๐.

                                 ๓๖   Frank  Thilly,  A  history  of  philosophy,  (New  Dehi:  Manish  sabbarwal  SBW
                       publishers,1993), p.16.
                                                   ั
                                 ๓๗ สุวัฒน์ จันทรจ านง,ปรชญาและศาสนา, (กรุงเทพมหานคร: ส านักพิมพ์สุขภาพใจ, ๒๕๔๐), หน้า
                       ๓๗.
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63