Page 16 - โครงงาน เรื่อง การศึกษาและรวบรวมคำโบราณในสมัยอยุธยาเปรียบเทียบกับคำที่ใช้ในปัจจุบันจากละครย้อนยุค
P. 16

๘

                                                                                                        ั
               ผลกระทบนี้ด้วย นักภาษาศาสตร์สังคมที่เฝ้ามองอย่างละเอียดรอบครอบ พบว่า ภาษามักแปรไปตามปัจจย
               ต่างๆ ในสังคมที่ใช้ในภาษานั้นๆ เช่น คําว่า “แปร” ตรงกับคําภาษาอังกฤษว่า vary หมายถึง มีรูปแบบ

               เบี่ยงเบนออกไปจากรูปเดิม หรือรูปมาตรฐาน แต่ก็ยังมีส่วนที่บ่งบอกได้ว่าเป็นสิ่งเดียวกับรูปเดิม หรือ

                                                                                                    ั้
               รูปมาตรฐาน เช่น การออกเสียง คําว่า มหาวิทยาลัย ว่า มหาลัย นั้นเป็นตัวอย่างหนึ่งของการแปร คําทงสองมี
               ความหมายเดียวกัน แต่ใช้ต่างกันตามปัจจัยทางสังคม ซึ่งอาจเป็นอายุของผู้พูด หรืออาจเป็นความเป็นทางการ

               ก็ได้ (อมรา ประสิทธิ์รัฐสินธุ์ ๒๕๔๕: ๙)

                       การแปรของภาษาในแต่ละระบบ ได้แก่

                              ๑. ในระบบเสียง เช่น เสียง ช ในปัจจุบันเกิดจากการแปร คือ มีบางคนออกเสียงเป็น [ch]

                       แต่บางคนออกเสียงเป็น [sh] เสียง ร ก็เช่นเดียวกัน บางทีเราได้ยินคนออกเสยงเป็นเสยงรัว ซึ่งถือว่า
                                                                                      ี
                                                                                             ี
                                                  ี
                       เป็นมาตรฐาน บางคนออกเป็นเสยงคลายเสียง r ในภาษาอังกฤษ และบางคนก็ออกเป็นสียง ล ซึ่งถือ
                                                      ้
                       ว่าไม่มาตรฐาน

                              ๒. ในระบบคําศัพท์ มีการแปรมากโดยเฉพาะระหว่างถิ่นต่าง ๆ เช่น คําว่า ดู ในภาษาไทย

                       กลาง จะแปรเป็น แล ในภาษาถิ่นใต้ และ เบิ่ง ในภาษาถิ่นอีสาน เป็นต้น

                              ๓. ในระบบวากยสัมพันธ์ สังเกตเห็นการแปรระหว่างรูปประโยค เช่น พูดว่า เขาหั่นเนื้อด้วย

                       มีด กับ เขาใช้มีดหั่นเนื้อ และ เขาถูกหมากัด กับ หมากัดเขา ดังนี้เป็นต้น

                       การแปรของภาษาสัมพันธ์กับปัจจัยทางสังคมเสมอ ความจริงข้อนี้ทําให้เกิดการจัดแบ่งประเภทของ

               ภาษาเป็นวิธภาษาประเภทต่าง ๆ หรือจัดเป็น ๒ มิติใหญ่ ๆ ได้แก่ ภาษาย่อย และทําเนียบภาษา

                                     ๑. ภาษาย่อย เกิดจากการแปรของภาษาตามลักษณะทางสังคมของตัวผู้พูด การทผ  ู้
                                                                                                        ี่
                              พูดเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย เป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เป็นครูหรือนักธุรกิจ ฯลฯ ล้วนแต่กําหนดให้ผ ู้

                              พูดนั้นใช้ภาษาต่างกันทั้งสิ้น

                                     ๒. ทําเนียบภาษา เกิดจากการแปรของภาษาตามปริบทหรือการใช้สถานการณ์ตาง
                                                                                                        ่
                              ๆ การใช้ภาษาในห้องประชุม กับในวงเหล้า ถึงแม้จะโดยบุคคลเดียวกันย่อมต่างกัน การใช ้

                              ภาษามีการโฆษณาและตําราวิชาการมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด

                                                                                                      ่
                       กล่าวสรุปได้ว่า การแปรของภาษา หมายถึง การที่ภาษามีรูปแบบเบี่ยงเบนออกไปจากรูปเดิม แตก็ยัง
               มีส่วนที่บ่งบอกได้ว่าเป็นสงเดียวกับรูปเดิม โดยการแปรของภาษาจะเกิดจากปัจจัยทางสังคม เช่น ลักษณะทาง
                                     ิ่
                                    ้
               สังคมของตัวผู้พูด การใชภาษาสถานการณ์ต่าง ๆ
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21